ซีเกมส์ 2011 อินโดนีเซีย

Advertisement

------------------------------------------------------------------------------------------------------------
------------------------------------------------------------------------------------------------------------

"บิ๊กสุวัจน์" สุวัจน์ ลิปตพัลลภ นายใหญ่เทนนิสไทย เตรียมจัดฉลองเจ้าเทนนิสซีเกมส์ ให้ทัพนักหวดไทย 24 ธ.ค.นี้ พร้อมมอบเงินอัดฉีดให้ทั้งทีม 1 ล้านบาท ยันแม้ ผลงานต่ำกว่าเป้าที่วางไว้ 5 ทอง แต่ภาพรวม ถือว่าน่าพอใจมาก เพราะเห็นศักยภาพ และความตั้งใจ ของหวดรุ่นอย่าง กิตติพงษ์ วชิรมโนวงศ์ กับ วรัชญา วงศ์เทียนชัย ย้ำปัญหาของเทนนิสไทยคือ รุ่นน้องก้าวไม่ทันรุ่นพี่ ชี้ปีหน้า จะวางระบบสร้างเลือดใหม่ มั่นใจอีก 2 ปีมี "ภราดร-แทมมี่ 2" เกิดขึ้นชัวร์

หลังจากที่ทีมเทนนิสไทยคว้าเหรียญทอง ได้ต่ำกว่าเป้าหมายในศึกเทนนิสซีเกมส์ ครั้งที่ 25 ที่ลาว โดยคว้ามาได้เพียง 4 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน และ 3 เหรียญทองแดง ล่าสุด นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ นายกลอนเทนนิสสมาคมแห่งประเทศไทยฯ ออกมากล่าวว่า แม้ผลงานทีมหวดไทยจะได้ต่ำกว่าเป้าที่วางไว้ถึง 5 เหรียญทอง แต่โดยภาพรวมแล้วตนรู้สึกพอใจผลงานนักเทนนิสไทยชุดนี้มาก เพราะทุกคนนั้นได้ทุ่มเทและตั้งใจอย่างเต็มที่แล้ว

อีกทั้งจำนวนเหรียญทองที่ได้ 4 เหรียญ เพียงพอที่จะให้ทีมเทนนิสไทยเป็นเจ้าอาเซียนตามเป้าที่วางไว้ และเพื่อเป็นขวัญกำลังใจทีมนักหวดไทยต่อไป ตนจะยังมอบเงินรางวัลให้ทั้งทีม จำนวน 1 ล้านบาท ตามที่สัญญาไว้ และจัดงานเลี้ยงฉลองความสำเร็จให้ในวันที่ 24 ธันวาคมนี้ เวลา 17.00 น. ที่ลอนเทนนิสสมาคมฯ เมืองทองธานี

นายสุวัจน์ กล่าวต่อว่า โดยภาพรวมของกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 25 จะเห็นได้ว่า นักกีฬาของประเทศเพื่อนบ้านมีการพัฒนาขึ้นมาก เพราะรัฐบาลของแต่ละประเทศ มองออกถึงประโยชน์ของกีฬาที่สร้างคนสร้างประเทศได้จริง เมื่อทุกประเทศให้ความสำคัญเช่นนี้ ทัพนักกีฬาไทยจะอยู่แบบเดิมอีกต่อไปไม่ได้ เพราะคู่แข่งขันมากขึ้น ต่างรู้จุดอ่อนและจุดแข็ง ดังนั้น ถ้าไทยยังหวังจะครองเจ้าเหรียญทองซีเกมส์ต่อไป จะต้องพัฒนามากขึ้นไปอีก

"ผมยอมรับว่าเทนนิสไทยในปัจจุบันยังมีช่องว่าง ระหว่างรุ่นน้อง รุ่นพี่ที่ยังก้าวขึ้นมาทดแทนกันไม่ทันอยู่บ้าง แต่เรื่องนี้ผมไม่ได้ยิ่งนอนใจสมาคมเองก็พยายามแก้ไขและในปีหน้าจะมีการวางแผนพัฒนาศักยภาพนักเทนนิสเยาวชนให้ก้าวมาสู่ระดับชาติและระดับอาชีพให้ทันรุ่นพี่อย่างเต็มที่

โดยมีการตั้งศูนย์ฝึกเทนนิสแห่งเอเชีย และ มีการจัดหาโค้ชมืออาชีพมาเสริมด้วยผมเชื่อว่าในอีก 2 ปีข้างหน้าวงการเทนนิสไทยจะมีนักหวดฝีมือดีและมีผลงานในระดับโลกได้ดีเช่นเดียวกับที่ ภราดร ศรีชาพันธุ์ กับ แทมมารีน ธนสุกาญจน์ รวมถึงนักเทนนิสรุ่นพี่คนอื่นๆได้ทำไว้แน่นอน"

นอกจากนี้ นายสุวัจน์ ได้กล่าวชมเชยนักเทนนิสรุ่นเก๋าอย่าง "แทมมี่" แทมมารีน ธนสุกาญจน์, "ปิ๊ก" ดนัย อุดมโชค และ "แจน" สุชานัน วิรัฐประเสริฐ ที่สามารถช่วยประคองน้องๆ ในทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ ครั้งที่ 25 ได้อย่างดีจนทำให้ทีมหวดไทยได้เป็นเจ้าเหรียญทองอีกสมัย

ขณะที่ดาวรุ่งอย่าง กิตติพงษ์ วชิรมโนวงศ์ ที่แม้จะพลาดเหรียญทองไป แต่ด้วยศักยภาพและฝีมือถือว่าพัฒนาขึ้นมาก ส่วน วรัชญา วงศ์เทียนชัย ถือว่าเป็นดาวรุ่งมาแรงทีเดียวเพราะติดซีเกมส์ครั้งแรกได้มาถึง 3 เหรียญทอง เพราะฉะนั้นนักหวดรุ่นใหม่เหล่านี้ สมาคมจะส่งเสริมและสนับสนุนให้ก้าวไปสู่ความสำเร็จยิ่งๆ ขึ้นไปแน่นอน

Advertisement

------------------------------------------------------------------------------------------------------------
------------------------------------------------------------------------------------------------------------

เตรียมกู้ศรัทธาแฟนบอลทั้งประเทศ แข้งนักเตะทีมชาติไทย ตบเท้าเข้ารายงานเก็บตัวฝึกซ้อมกันพรึบพรับ ขาดเพียง "มุ้ย" ธีรศิลป์ แดงดา ที่เจ็บ และตัวค้าแข้งอยู่ต่างแดน โค้ชใหญ่ ไบรอัน ร็อบสัน ยังไว้ใจ สตีฟ ดาร์บี้ อยู่ช่วยงานในฐานะฝ่ายข้อมูล และดีใจที่ได้ทีมงานใหม่ๆ เข้ามาช่วย เข้าใจดีแฟนบอลไทยผิดหวัง แต่จะเตรียมทีมให้ดีที่สุด เพื่อเอาชนะจอร์แดนให้ได้ รับเสียดายถ้า สุรัตน์ สุขะ เจ็บจริง แถมเกมอุ่นเครื่องกับโอมาน โดนยกเลิก จำต้องหาทีมไทยลีกอุ่นแทน

ความเคลื่อนไหวของนักเตะทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ที่จะเตรียมทำศึกฟุตบอลเอเชียน คัพ 2011 รอบคัดเลือก กลุ่ม อี นัดที่ 5 กับจอร์แดน วันที่ 6 ม.ค.53 นี้ ได้เข้ารายงานตัวเพื่อฝึกซ้อมกันแล้ว เมื่อบ่ายวันที่ 21 ธ.ค.ที่ผ่านมา ที่ รร.เรดิสัน โดยกุนซือใหญ่ ไบรอัน ร็อบสัน พร้อมทีมงานสต๊าฟฟชุดใหม่ ชัชชัย พหลแพทย์, เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ได้รอต้อนรับ

ขณะเดียวกัน "บิ๊กก๊อง" วิรัช ชาญพานิชย์ ประธานพัฒนาเทคนิคสมาคมฟุตบอลฯ ที่ส่งให้เข้ามาเป็นที่ปรึกษาทีม และ "เสี่ยแฮ๊งค์" อนุชา นาคาศัย ผจก.ทีม ก็ได้เดินทางมาพบกับนักเตะด้วย โดย สตีฟ ดาร์บี้ ที่ได้ถูกพักงาน ก็ยังคงอยู่กับทีมเช่นกัน

ซึ่งนักเตะทีมชาติไทย ต่างทยอยเดินทางมาเข้าห้องพักกันตั้งแต่เวลา 14.00 น. ในการนี้ ดัสกร ทองเหลา ที่ไม่มีรายชื่อเรียกตัว เพราะโดนโทษแบน ในเกมกับ จอร์แดน แต่สุดท้าย ก็มีการเรียกเสริมให้เข้าเก็บตัวเป็นรายสุดท้าย ก็เดินทางมาสมทบกับทีมด้วย รวมแล้ว 20 คน

ที่ไปขาดไปคือ "มุ้ย" ธีรศิลป์ แดงดา กองหน้า ซึ่งเจ็บมาจากศึกซีเกมส์ และ 7 แข้งในต่างชาติ ประกอบด้วย สุรัตน์ สุขะ, สุธี สุขสมกิจ, สุเชาว์ นุชนุ่ม, นิรุจน์ สุระเสียง, ปีเตอร์ แลง, สินทวีชัย หทัยรัตนกุล, พิพัฒน์ ต้นกันยา จะตามมารวมกับทีมหลังวันที่ 27 ธ.ค.

หลังเข้าพัก ทางทีมได้มีการประชุมกันกันภายใน จากนั้นเวลา 16.00 น. ก็เริ่มโปรแกรมซ้อมวันแรก คือลงมาเข้าห้องเวตเทรนนิ่ง ของโรงแรม มีสื่อมวลชนเฝ้ารอทำข่าวกันจำนวนมาก ไบรอัน ร็อบสัน กุนซือใหญ่ ได้กล่าวถึงการเตรียมทีมสำหรับการเล่นกับ จอร์แดน ว่า หลังจากที่ทีมไทยล้มเหลว มาจากซีเกมส์ ทำให้มีการแต่งตั้งสต๊าฟฟโค้ชชุดใหม่ เข้ามาทำงานร่วมกัน ซึ่งถือเป็นการดี และพูดคุยกันแล้วถึงแนวทางต่างๆ เพื่อให้ทีมสมบูรณ์ที่สุด

ตนพอใจกับการเตรียมทีมครั้งนี้มาก เพราะยังพักโรงแรมระดับหรูที่นอนดี อาหารการกินดี และเรื่องสนามซ้อม ก็มีที่ซ้อมประจำคือที่ราชมังคลาฯ จะมีปัญหาบ้าง คือโปรแกรมการอุ่นเครื่อง เพราะไม่สามารถอุ่นกับ โอมาน ได้แล้ว คงต้องให้สมาคมฯ หาแมตซ์มาเสริมให้ใหม่

ส่วนความหวังในการเข้ารอบสุดท้าย ก็ต้องบอกว่าทุกทีมในกลุ่ม อี ต่างก็มีลุ้นทั้งสิ้น เราเองต้องเอาชนะจอร์แดนในบ้านให้ได้ โอกาสของเราก็จะมีสูงทันที ยังไง อยากให้สื่อมวลชน และแฟนบอลให้การสนับสนุนเราต่อไป ตนรู้ดีว่าหลังแมตซ์ที่เราแพ้ สิงคโปร์ ทุกคนผิดหวัง ทั้งที่รูปเกมน่าจะออกมาเสมอ ตรงนี้ไม่อยากให้เสียกำลังใจ อยากให้สนับสนุนทีมกันต่อไป

มีการถามว่า ช่วงนี้ฟุตบอลไทย กำลังอยู่ในช่วงวิกฤติศรัทธา จะมีวิธีการแก้คืนได้อย่างไร ร็อบสัน กล่าวว่า ทุกคนผิดหวังกับซีเกมส์ ซึ่งมันก็แปลก จากที่กำลังจะเป็นฮีโร่ เข้ารอบได้ แต่นาทีเดียว ทุกอย่างก็พลิกผัน ให้เราเป็นผู้แพ้จนตกรอบ ซึ่งมันเลวร้ายมาก อีกอย่างทีมซีเกมส์ เรามีกองหน้าที่ดี อย่าง ธีรศิลป์ แดงดา ตนรู้ดีว่า ระดับ ธีรศิลป์ ถ้าเขาสมบูรณ์จะลงช่วยยิงประตูให้ทีมได้แน่นอน แต่เมื่อเกิดเจ็บขึ้นมา ก็ส่งผลเสียต่อทีมเช่นกัน แต่ยังไงเราต้องทำงานหนักกันต่อไป

ส่วนปัญหาของทีม ที่ตัวเจ็บเยอะ จะแก้ไขอย่างไร กุนซือชาวอังกฤษมองว่า รายของ สุรัตน์ สุขะ เขาเจ็บไปตั้งแต่แมตซ์กับ สิงคโปร์ นัดแรกแล้ว และรู้ว่าจะต้องพักยาว ก็ค่อนข้างเสียดาย เพราะถือเป็นตัวหลัก ที่เราต้องใช้งาน ส่วน ธีรศิลป์ เราหวังว่าเขาจะหายได้ทัน เพื่อกลับมาช่วยทีม ยังไงก็แล้วแต่ การเข้าแคมป์ครั้งนี้ เราเรียกตัวผู้เล่นมาถึง 27 คน ก็เพื่อการเตรียมทีมจะได้สมบูรณ์ขึ้น ทั้งนี้ตัวต่างชาติตอบรับ จะกลับมารวมทีมหลังวันที่ 27 ธ.ค.

จากนั้น ไบรอัน ร็อบสัน ได้กล่าวความในใจต่อว่า ที่ผ่านมาตน ติดตามข่าวสารจากสื่อ รู้ดีว่าสมาคมฟุตบอลฯ โดนวิจารณ์หนัก ถึงเรื่องความฟิตของนักเตะ ก็อยากจะบอกว่า ในการทำงานทีมชาติ เรามีเวลาประมาณ 7 วัน โค้ชไม่มีเวลาที่จะมาฟื้นเรื่องสภาพร่างกาย ทุกอย่างจะมุ่งเน้นไปที่เกมแท๊กติกเท่านั้น

ความฟิตของนักเตะ จะต้องขึ้นอยู่กับการซ้อมในสโมสรเท่านั้น ซึ่งก็อาจจะเกิดปัญหาขึ้นบ้าง ยังไงในระยะยาว ตนจะให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ โดยหลังจบแมตซ์ จอร์แดน จะไปติดตามเยี่ยมชมการซ้อมของผู้เล่นตามสโมสรต่างๆ ว่ามีสภาพความฟิตเป็นอย่างไร

ผู้สื่อข่าวถามว่ายังต้องการ สตีฟ ดาร์บี้ เป็นผู้ช่วยต่อไปใช่หรือไม่ ไบรอัน ร็อบสัน ตอบว่า ตนยังยืนยันให้ สตีฟ ร่วมทำงานร่วมกันต่อไป ในฐานะฝ่ายข้อมูล ที่ สตีฟ จะรู้ดีที่สุด ตนไม่อยากให้มองเขาผิดไป สตีฟ ทำงานมาได้ดี แต่เพียงชั่วข้ามคืน ที่ทำทีมแพ้ตกรอบ เขากลายเป็นผู้ร้ายทันที

มันไม่น่าเป็นอย่างนั้น ทีมซีเกมส์ ปัญหามีหลายอย่าง ตามรายงาน ตัวเราเจ็บเยอะ แต่ละนัดจึงจัดทัพลำบาก อีกอย่างเราไม่มีโชค อาจจะเพราะไทย เป็นแชมป์มา 8 สมัยติดแล้วก็ได้ ใช้โชคไปหมดแล้วก็ได้ ตรงกันข้ามมาเลเซีย โชควาสนาเขาดีกว่า พอชนะไทยได้ ก็ก้าวไปสู่แชมป์ได้เลย แต่ยังไงก็แสดงความดีใจด้วย ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าเหรียญทอง

ด้าน "บิ๊กก๊อง" วิรัช ชาญพานิชย์ ที่ได้มาร่วมต้อนรับนักเตะเปิดใจว่า ในนามสมาคมฟุตบอลฯ เราเข้าใจความรู้สึกของแฟนบอลที่ผิดหวัง ฉนั้นภาระกิจสำคัญ ต่อจากนี้คือเกมวันที่ 6 ม.ค. จึงได้เข้าช่วยกันทำงาน เพื่อเตรียมทีมให้ดีที่สุด และเรียกศรัทธาแฟนบอลบคืนมาให้ได้

การแพ้ชนะคงตอบไม่ได้ แต่สิ่งสำคัญ เราจะเล่นอย่างเต็มที่ ด้วยฟอร์มที่ประทับใจ ไม่ให้ผิดหวังเด็ดขาด ส่วนการทำงานเราคุยกันชัดเจน ไบรอัน ก็ทำหน้าที่ของตัวเองเรา ไม่มีสิทธิ์ไปก้าวก่ายเขาได้ แต่เราจะช่วยเติมเต็มในส่วนที่ขาด และคอยให้คำปรึกษาเท่านั้น

นอกจากนี้ "บิ๊กก๊อง" ยังเผยว่า เสียดายที่เราจะไม่มีเกมอุ่นเครื่องกับโอมานในวันที่ 27 ธ.ค.นี้แล้ว เพราะโอมานได้ขอไปอุ่นกับ สิงคโปร์ แทน ทำให้โปรแกรมของเราคงต้องหาทีมในไทยลีกอุ่นแทน โดยจะเลือกสโมสรใหญ่ๆ เพื่อเน้นข้อบกพร่อง และทดสอบระบบเท่านั้น

และในวันที่ 27 ธ.ค. เช่นกันที่ จอร์แดน จะเดินทางอุ่นกับทีมชาติจีน เราจะให้ ร็อบสัน เดินทางไปชมเกมด้วย เพื่อเก็บข้อมูล ส่วนเรื่องของ สตีฟ ดาร์บี้ เขาคงไม่ได้มายุ่งเกี่ยวมากนัก แต่จะเป็นเรื่องของการส่งข้อมูล และคอยปรึกษาเป็นการส่วนตัวกับร็อบสันเท่านั้น

"ด้านตัวผู้เล่น จะมีการทยอยมาสมทบกันหมด คนที่เจ็บก็จะให้แพทย์ของทีมเช็กอาการ ส่วนดัสกร ทองเหลา แม้ว่าจะลงเล่นกับจอร์แดนไม่ได้ แต่ว่าก็ต้องเล่นในเกมต่อไปอยู่ดี ก็เลยให้เรียกมาซ้อมกับทีมด้วย ดีกว่าอยู่เฉยๆ ส่วนทีมงานใหม่ ทั้งน้าชัช และ ซิโก้ คุยกับ ร็อบสัน แล้วเขาก็เข้าใจ เพราะเราต้องมีโค้ช ที่คอยมาดูแลทีมอย่างใกล้ชิด เป็นที่ปรึกษา ทั้งเรื่องฟุตบอล และเรื่องส่วนตัว ก็เพื่อให้สภาพจิตใจของนักเตะมีสมาธิกับการซ้อมให้มากที่สุด" ประธานพัฒนาเทคนิคกล่าว

เมื่อถามว่าทีมไทยจะเอาชนะจอร์แดนได้หรือไม่ "บิ๊กก๊อง" ตอบว่า ส่วนตัวมั่นใจ ว่าศักยภาพผู้เล่นของไทยชุดนี้ ไม่ขี้เหร่ น่าจะผ่านได้ ทุกคนมีประสบการณ์ในการเล่นมาสูง ขอให้เตรียมทีมดีๆ เรียกขวัญกำลังใจ กลับคืนมาเราชนะแน่

"เสี่ยแฮ๊งค์" อนุชา นาคาศัย ผจก.ทีม ก็กล่าวถึงการเตรียมทีมชุดนี้ว่า เราผิดหวังมามาก ทั้งที่ไทยแพ้สิงคโปร์ และตกรอบซีเกมส์ จึงต้องมารวมจิตใจ รวมพลังกันใหม่ โชคดีได้คนมีประสบการณ์อย่าง พี่ก๊อง เข้ามาช่วยกันทำงาน และเติมเต็มให้ทีมดีขึ้น ซึ่งจะทำให้ผลงานออกมาดีที่สุด เพื่อเรียกศรัทธาแฟนบอลอีกครั้ง

"สำหรับที่ผ่านมา การสื่อสารระหว่างโค้ช ที่เป็นชาวต่างชาติ กับนักเตะไทย อาจจะคาดเคลื่อนกันบ้าง และเขาก็ยังไม่เข้าใจวัฒนธรรมไทยอย่างถ่องแท้ ทุกอย่างก็มาปรับกัน ว่าเรื่องฟุตบอลของเราคงไปเทียบกับ ระดับอาชีพไม่ได้ หรือปัญหานอกสนามของนักเตะ มันเกิดขึ้นได้หมดในสังคมไทย ตรงนี้เราก็มาคุยกัน และให้ ร็อบสัน เขาเข้าใจ" เสี่ยแฮ๊งค์กล่าว

ผจก.ทีมไทย ยังเสริมด้วยว่า เราต้องการปลูกฝังทรรศนะคติ เรื่องการรับใช้ชาติของนักเตะด้วย ว่านี้คือทีมชาติไทย เราลงไปสู้เพื่อคนไทยทั้งประเทศ เราเป็นตัวแทนของพวกเขา ที่จะต้องทำให้สุดความสามารถ และเล่นอย่างเต็มที่ เหมือนทหาร ให้ออกไปรบ ก็ต้องพร้อมตาย เช่นกันฟุตบอล ก็ต้องลงไปสู้สุดกำลัง ไม่ว่าจะเจอกับทีมไหน ตนยังฝันเห็นบอลไทยไปบอลโลก อาจจะไกลเกินฝัน แต่ถ้าเราร่วมมือกันก็เป็นจริงได้

ในส่วนของสต๊าฟฟโค้ช ที่ไม่มี นิพนธ์ มาลานนท์ โค้ชประตู มาร่วมรายงานตัวด้วยนั้น "มหาโต" เผยว่า ได้โทรแจ้งขอถอนตัวไปแล้ว ก็ด้วยเหตุผลว่าตนเศร้า และเสียใจมาก ที่ทีมซีเกมส์ต้องตกรอบ และได้ประกาศรับผิดชอบลาออกไปแล้ว จึงไม่อยากกลับคำพูด อีกอย่าง คิดว่าน่าจะมีโค้ชประตู ที่เก่งอีกหลายคน เข้ามาทำหน้าที่แทน ยังไงตนขอขอบคุณสมาคมฟุตบอลฯ ที่ให้โอกาสในการเข้ามาทำงานทีมชาติด้วย

คัด 12เยาวชนไปชมบอลโลก


"บังยี" นายวรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลฯ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า จากการที่ตนเป็น 1 ใน 24 คณะกรรมการบริหารฟุตบอลนานาชาติ หรือ "ฟีฟ่า" ได้ประสานงานกับทางบอร์ดฟีฟ่าในการจัดทำโครงการพานักเตะเยาวชนไทยไปสัมผัสกับบรรยากาศการแข่งขันฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย 2010 ที่ประเทศแอฟริกาใต้ เพื่อเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้แก่เด็ก ๆ ในการพัฒนาฝีเท้าตัวเองให้ก้าวไปสู่ระดับโลก

สำหรับแนวทางการคัดเลือกเยาวชนจะคัดจาก 5 ภาค ภาคละ 2 คน โดยมีศูนย์พัฒนาฟุตบอลภูมิภาคทั้ง 5 แห่ง เป็นแกนหลักในการคัด รวม เป็น 10 คน และจะคัดจากกรุงเทพมหานครเพิ่มอีก 2 คน รวมทั้งสิ้น เป็น 12 คน ซึ่งเยาวชนทั้ง 12 คนนี้

จะได้เดินทางไปชมการแข่งขันฟุตบอลโลก นัดเปิดสนาม วันที่ 11 มิ.ย. 2553 ระหว่าง เจ้าภาพ แอฟริกาใต้ กับ เม็กซิโก ที่สนามซ็อคเกอร์ ซิตี้ ในกรุงโยฮันเนสเบิร์ก โดยสมาคมฟุตบอลจะออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นค่าเครื่องบิน, ค่าที่พัก, อาหาร พร้อม "พ็อคเก็ตมันนี่"

นายกสมาคมลูกหนัง กล่าวอีกว่า ในส่วนของการคัดเลือกทั้ง 5 ภูมิภาค ตนได้มอบหมายให้ นายวิมล กาญจนะ อุปนายกสมาคมฟุตบอลฯ ในฐานะประธานคณะกรรมการจัดการแข่งขันฟุตบอลลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2 เป็นประธานคณะทำงานไปหาแนวทางดำเนินการคัดเลือกมาอย่างยุติธรรม โปร่งใส ไม่มีการใช้เส้นเด็ดขาด

ส่วนฟุตบอลโลกครั้งนี้ ตนได้รับมอบหมายจาก "ฟีฟ่า" ให้เป็นผู้ควบคุมการแข่งขันที่สนาม รอยัล บาโฟเกง ซึ่งนัดแรกของสนามแห่งนี้ เป็นการแข่งขันระหว่าง "สิงโตคำราม" อังกฤษ กับ สหรัฐอเมริกา ในวันที่ 13 มิ.ย.

ด้าน นายวิมล กล่าวว่า จากการที่ ท่านนายกสมาคมฯ ไว้วางใจให้ตนเป็นประธานคณะทำงาน หาแนวทางดำเนินการคัดเลือก ตนจะเชิญผู้แทนจากศูนย์พัฒนาฟุตบอลภูมิภาคทั้ง 5 แห่ง มาประชุมหารือร่วมกัน เพื่อให้การคัดเลือกโปร่งใสและยุติธรรมที่สุด

Advertisement

------------------------------------------------------------------------------------------------------------
------------------------------------------------------------------------------------------------------------

Advertisement

------------------------------------------------------------------------------------------------------------
------------------------------------------------------------------------------------------------------------


ทัพนักหวดลูกพลาสติกไทย ชุดซีเกมส์ บินกลับถึงบ้านเรียบร้อยแล้ว "โค้ชโจ" กำพล ทัศสิทธิ์ ผู้ช่วยผู้ฝึกสอนทีมหญิง พอใจทำได้ตามเป้า รับประเภทหญิงคู่ ประมาทพม่าเอง ทำให้พลาดเหรียญทอง เม.ย. ปีหน้า เตรียมเก็บตัวลุย เอเชียนเกมส์ ที่กว่างโจว ตั้งเป้าคว้าเหรียญทองทุกประเภท

ทีมนักกีฬาเซปักตะกร้อทีมชาติไทย ชุดลุยศึกซีเกมส์ ครั้งที่ 25 เดินทางกลับถึงประเทศไทยแล้ว หลังจากคว้า 5 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน โดยเดินทางมาด้วยสายการบินไทยเที่ยวบินทีจี 571 ท่ามกลางการรอต้อนรับของสื่อมวลชน และญาติพี่น้องของนักกีฬาที่มารอทีมนักกีฬาเซปักตะกร้อทีมชาติไทยนานกว่าชั่วโมงครึ่ง ที่สนามบินสุวรรณภูมิ

หลังจากที่ไฟลต์บินแจ้งว่าเครื่องจะลงตอน 14.55 น. แต่ทีมเซปักตะกร้อทีมชาติไทยกลับออกมาถึง เวลา 16.30 น. แถมไม่มี "โจ้หลังเท้า" ร.ต.ท.สืบศักดิ์ ผันสืบ แบ็กจอมเก๋า ร่วมเดินทางมาด้วย เพราะ "โจ้" ได้เดินทางกลับมาถึงไทยก่อนล่วงหน้าแล้ว ด้วยธุระส่วนตัวเร่งด่วน

"กำพล" บอกทำได้ตามเป้าที่ตั้ง
ในเวลา 16.30 น. นักเซปักตะกร้อทีมชาติไทย ได้เดินทางออกมาจากด้านในของอาคารสนามบิน และได้มายืนให้สัมภาษณ์พร้อมกับถ่ายภาพ ที่บริเวณประตูทางออกหมายเลข 3 ด้าน "โค้ชโจ" กำพล ทัศสิทธิ์ ผู้ช่วยผู้ฝึกสอนเซปักตะกร้อหญิงทีมชาติไทย ได้ให้สัมภาษณ์แก่ผู้สื่อข่าวถึงผลงานของทีมว่า

"ทีมตะกร้อไทยทำผลงานได้ตามเป้าของสมาคมตะกร้อฯ ที่วางเอาไว้ เข้าชิง 6 ประเภท ได้มา 5 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน น่าเสียดายที่เราพลาดเหรียญทองในประเภทหญิงคู่ ขอชื่นชมนักกีฬาทุกคนที่ทำได้ดี ส่วนคู่แข่งในย่านอาเซียนถือว่ามีการพัฒนาขึ้นมาอย่างมาก เราจะหยุดนิ่งไม่ได้ ต้องทุ่มเท ซ้อมหนัก และปรับเกมกลยุทธ์ให้พัฒนาต่อไป"

รับประมาทเลยชวดเหรียญทอง
"โค้ชโจ" ยังกล่าวต่ออีกว่า สำหรับประเภทหญิงคู่ ที่ไม่ได้เหรียญทอง เป็นเพราะไทยประมาทคู่ต่อสู้ แล้ววางแผนผิด "ยอมรับว่าเราประมาทพม่า และเราวางแผนผิดด้วย ในการที่เอาเด็กใหม่ เพื่อจะเปิดโอกาสให้เด็กใหม่ได้ลงเล่น คือประมาทคู่ต่อสู้ว่า ยังไงเราก็สามารถเอาชนะเค้าได้ ก็เลยเอาตัวจริงนั่งสำรองไว้ก่อน และการเปิดเกมแลกของเราทำให้คู่ต่อสู้กล้าเล่น ถ้าเราส่งตัวจริงลงไปคู่ต่อสู้ อาจจะไม่กล้าเล่นเกมเราอาจจะดีกว่าพม่า และอาจจะคว้าเหรียญทองได้สำเร็จ"

ชมลาวเปิดโอกาสคว้าเหรียญมากขึ้น
กำพล ทัศสิทธิ์ ยังกล่าวถึงการจำกัดประเภทกีฬาแต่ละชนิดของ "เจ้าภาพ" ลาว อีกว่า "ดีครับ การที่ลาวออกกฎว่าให้แต่ละชาติส่งนักกีฬาชิงเหรียญรางวัลได้แค่ 6 ประเภท เป็นการเปิดกว้างให้ทุกประเทศมีโอกาสคว้าเหรียญรางวัลกันมากขึ้น ไม่ใช่ว่ามีประเทศหนึ่ง หรือสองประเทศ ที่คว้าเหรียญรางวัลอยู่เพียงชาติเดียว ประเทศอื่นๆ เป็นได้แค่ตัวประกอบเท่านั้น ถ้าเป็นแบบนั้นตะกร้อย่านอาเซียนก็คงจะไม่พัฒนา"

เอเชียนเกมส์ต้องคว้าทองทุกรุ่น
ด้านการเตรียมทีมสู้ศึกเอเชียนเกมส์ ที่กว่างโจว ปี 53 นั้น "โค้ชโจ" กล่าวว่า "คงจะเริ่มเก็บตัวหลังเดือน เม.ย. ถ้าเกิดเก็บตัวช้ากว่านี้ คงจะไม่ทันแน่ เพราะเอเชียนเกมส์มีคู่แข่งเยอะ โดยเฉพาะผู้ชายมี เกาหลีใต้ เป็นกระดูกชิ้นโต ส่วนผู้หญิง มีคู่ต่อสู้ที่น่ากลัวเยอะเช่น "เจ้าภาพ" จีน, ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ เป็นคู่แข่งที่แข็งแกร่งในการคว้าเหรียญทอง ไทยตั้งเป้าว่าต้องเหรียญทองอย่างเดียว ห้ามพลาดเด็ดขาด ถ้าไม่ได้เหรียญทองทุกประเภทถือว่าล้มเหลว

"สุริยัน-พยอม" ดีใจคว้าทองตามเป้า
จ.ส.อ.สุริยัน เป๊ะชาญ หน้าซ้ายชงทีมชุดชาย กล่าวถึงผลงานในซีเกมส์ครั้งนี้ว่า "ดีใจที่คว้าเหรียญทองมาครองได้สำเร็จ เพราะว่าก่อนที่เราจะเดินทางไปแข่งขันเราก็ฝึกซ้อมมาเป็นอย่างดี พอเราไปเล่นเราก็สามารถเล่นได้ตามเป้าหมายที่วางไว้คือทีมชายคว้าเหรียญทองมาได้ครบทั้ง 3 เหรียญ

ทุกวันนี้เราก็พัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง เพื่อหนีคู่แข่งที่ตามมาไม่ว่าจะเป็น พม่า, มาเลเซีย หรือลาว ที่ตอนนี้ฟอร์มดีขึ้นมาเรื่อยๆ สตาฟฟ์โค้ชก็หารูปแบบใหม่ๆ มาให้เราฝึกซ้อมอยู่ตลอด ขอขอบคุณชาวไทยทุกคนที่ช่วยเชียร์อยู่ ไม่ว่าจะอยู่ในประเทศหรือที่ตามไปเชียร์ที่เวียงจันทน์ พวกเราทุกคนรู้สึกดีใจ และภูมิใจมากที่เห็นคนไทยทุกคนร่วมใจเชียร์นักกีฬาทุกคน"

ส่วน พยอม ศรีหงษา หน้าขวาทำ ที่คว้าเหรียญทองประเภททีมชุดหญิง เผยว่า "ดีใจที่นำเหรีญทองมาฝากแฟนตะกร้อชาวไทยทุกคน ถึงแม้ประเภทคู่จะได้แค่เหรียญเงิน แต่ทีมชุด-ทีมเดี่ยวก็ได้เหรียญทอง ขอมอบให้เป็นของขวัญแก่พี่น้องชาวไทยทุกคน

สำหรับในการแข่งขันรายการต่อไปไทยเราจะประมาทไม่ได้ เพราะเวียดนาม ก็พัฒนาขึ้นเยอะ เล่นได้สูสีกับเรามาก เอเชียนเกมส์ ที่กว่างโจว เราจะประมาทไม่ได้ เพราะมีคู่ต่อสู้ที่น่ากลัวเช่น จีน, ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ เป็นคู่แข่งสำคัญในการคว้าเหรียญทอง"

Advertisement

------------------------------------------------------------------------------------------------------------
------------------------------------------------------------------------------------------------------------


"บิ๊กป๊อก" ปองพล อดิเรกสาร นายกแม่นปืนไทยปลื้ม ผลงานนักกีฬาไทย 10 ทอง แม้ไม่ถึง 14 ทองตามเป้าก็ตาม ยกลั่นไกปืนสาวแจ้งเกิดซีเกมส์ ขณะที่ปืนยาวชายไม่เข้าตา เตรียมทุ่มงบจ้างโค้ชติวเข้มเฉพาะอีเวนต์ ผวาคู่แข่งอาเซียน เวียดนาม และ สิงคโปร์ มาแรง

นายปองพล อดิเรกสาร นายกสมาคมกีฬายิงปืนแห่งประเทศไทย กล่าวว่า หลังจากที่นักกีฬายิงปืนทำผลงานคว้า 10 ทอง 8 เงิน 12 ทองแดง ในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 25 ณ ประเทศลาว ระหว่าง 9-18 ธ.ค.ที่ผ่านมา แม้จะไม่เข้าเป้าที่วางเอาไว้ 14 เหรียญทองก็ตาม นอกจากนักกีฬารุ่นพี่ที่คว้าเหรียญได้แล้ว ยังมีดาวรุ่งแจ้งเกิดในมหกรรมซีเกมส์ครั้งนี้หลายคน โดยเฉพาะนักกีฬายิงปืนหญิง ที่ผลงานเกิดเป้า

"บิ๊กป๊อก" ปองพล กล่าวอีกว่า ซีเกมส์ครั้งนี้เป็นเครื่องวัดมาตรฐานของนักกีฬาไทยเป็นอย่างดี ซึ่งผลงานทั้งหมดจะเป็นบันไดแรกในการคัดนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์และโอลิมปิกเกมส์ ส่วนปืนยาว ชาย ต้องปรับปรุง เพราะผลงานไม่เป็นไปตามเป้าที่วางเอาไว้ ทั้งที่มี เทวฤทธิ์ มัจฉาชีพ และวราวุธ มัจฉาชีพ เป็นตัวชูโรงอยู่ ซึ่งครั้งนี้นักกีฬาจากสิงคโปร์ และเวียดนาม พัฒนาขึ้นมาก

ขณะที่ทัวร์นาเมนต์ต่อไป สมาคมจะเตรียมนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ และโอลิมปิกเกมส์ โดยสมาคมมีนโยบายที่จะจ้างโค้ชต่างชาติ มาฝึกซ้อมให้นักกีฬายิงปืนแต่ละอีเวนต์ ทั้งปืนสั้นและปืนยาว เพื่อให้นักกีฬาได้เรียนรู้เทคนิคกับโค้ชให้มากที่สุด เนื่องจากที่ผ่านมาเรามีโค้ชเพียง 2 คน ขณะที่ต้องดูแลนักกีฬาหลายคน และยิงคนละอีเวนต์ทำให้ไม่เข้มเท่าที่ควร

"สมาคมมีนักกีฬาเกือบ 100 คน เราจะสร้างเป็นบันได รุ่นอายุ ทั้งทั่วไปและเยาวชน นอกจากนั้นเรายังพัฒนานักกีฬา ผู้ฝึกสอน ผู้ตัดสิน ในขณะที่นักกีฬาจะวางปืนเลิกเล่น สมาคมยินดีที่จะสนับสนุนและผลักดันให้ทำหน้าที่ผู้ตัดสินและผู้ฝึกสอนต่อไป" นายกสมาคมแม่นปืน กล่าว

Advertisement

------------------------------------------------------------------------------------------------------------
------------------------------------------------------------------------------------------------------------


"บิ๊กต้อม" ธนา ไชยประสิทธิ์ หัวหน้าคณะนักกีฬาไทย เหนื่อยใจผลงานซีเกมส์ต่ำกว่าเป้าหมาย เตรียมหารือกับสมาคมกีฬาประเมินผลงาน พร้อมกับเสนอให้มีการวิเคราะห์ เจาะลึก และเก็บข้อมูลคู่ต่อสู้เอาไว้ อย่างจริงจัง เชื่อหากวันไหนที่ไทยหยุด เวียดนามจะช่วงชิงเจ้าเหรียญทองไปอย่างแน่นอน

"บิ๊กต้อม" ธนา ไชยประสิทธิ์ หัวหน้าคณะนักกีฬาไทย เปิดเผยว่า ผลงาน 86 ทอง 83 เงิน 97 ทองแดง ของทัพนักกีฬาไทย ถือว่าต่ำกว่าเป้าหมาย ประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งหลังจากนี้เตรียมเรียกประชุมสมาคมกีฬาทั้งหมด เพื่อสรุปและประเมินผลงานอย่างเป็นทางการ

ขณะที่บางสมาคมทำได้ตามเป้า แต่บางสมาคมน้อยกว่าเป้า 1-2 เหรียญ และบางสมาคมไม่ได้เหรียญทองเลย เช่น แบดมินตัน เทเบิลเทนนิส คาราเต้-โด ว่ายน้ำ และฟุตบอล ต้องมีการพูดคุยถึงข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นด้วย ขณะที่วอลเลย์บอลชายและตะกร้อหญิงคู่ไทยพลาดเหรียญทองอย่างน่าเสียดาย

หัวหน้าคณะนักกีฬาไทย กล่าวอีกว่า เหตุที่เหรียญทองไม่เข้าเป้าที่วางเอาไว้ เป็นเพราะว่าสมาคมกีฬาไทย ไม่ได้เจาะลึกคู่แข่งอย่างจริงจัง ทั้งที่แต่ละชนิดกีฬาต่างก็รู้จักกันดี ทั้งวงการในอาเซียน จากนี้ต้องมีการวิเคราะห์ และเก็บข้อมูลนักกีฬาเอาไว้ ซึ่งหากวันไหนที่เราหยุด เชื่อว่าเวียดนามเองที่กำลังเดินหน้า สุดท้ายเราต้องเสร็จ โดนเวียดนามช่วงชิงเจ้าเหรียญทองไปอย่างแน่นอน

Advertisement

------------------------------------------------------------------------------------------------------------
------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ผลงาน "เวียงจันทน์เกมส์" ทัพนักกีฬาไทย สถานการณ์น่าเป็นห่วง อีกสองปีหวั่นเวียดนามเขี่ยตกบัลลังก์เจ้าทอง โอลิมปิคไทย เต้นเตรียมนัดทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ถกปัญหา "บิ๊กอ๊อด" พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ย้ำอีกรอบสมาคมกีฬาผลงานห่วยเชือดแน่ ชี้แผนเตรียมนักกีฬาไทย อาจต้องรื้อใหม่ ระดมหัวกะทิ วางแผนก่อนนำเสนอ "เสธ.หนั่น" พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี และจะพิจารณาเรื่องเงินสนับสนุนสมาคมกีฬาใหม่

จากการที่นักกีฬาไทยทำผลงานได้เพียง 86 เหรียญทอง 83 เงิน 97 ทองแดง ซึ่งถือว่าต่ำกว่าเป้าหมายที่วางไว้เดิมที่คาดว่าจะเกินหลัก 100 เหรียญทองในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 25 "เวียงจันทน์เกมส์" ที่นครหลวงเวียงจันทน์ ประเทศลาว ที่ได้ปิดฉากลงไปอย่างเป็นทางการ เมื่อค่ำวันที่ 18 ธ.ค. 2552

เกี่ยวกับเรื่องนี้ "บิ๊กอ๊อด" พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย เผยว่า ผลงานที่ออกมาน่าใจหายมาก ไม่น่าเชื่อว่านักกีฬาไทยจะทำได้ต่ำกว่าเป้ามาก ทั้งนี้เนื่องจากหลายสมาคมกีฬาทำผลงานไม่ตามเป้า และตกต่ำสุดๆ อย่างเช่น ว่ายน้ำ เป็นต้น

นอกจากนี้ไทยยังประเมินคู่ต่อสู้ต่ำไปด้วย โดยเฉพาะเวียดนาม เดิมทีเราก็คาดการณ์ไว้แล้วว่าจะต้องเป็นคู่แข่งขันที่น่ากลัวมากสำหรับไทย แต่ไม่น่าเชื่อว่าทัพนักกีฬาของเวียดนามจะทำได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อ ทำเหรียญทองเบียดกับไทยได้อย่างสูสีจนเรียกได้ว่าลุ้นเจ้าเหรียญทองกันถึงโค้งสุดท้าย

ตรงนี้เป็นเพราะว่าเวียดนามเตรียมตัวมาดีมาก กีฬาหลายชนิดพัฒนาขึ้น นักกีฬามีศักยภาพมากเรียกได้ว่าตอนนี้ อาจจะดีกว่านักกีฬาไทยด้วยซ้ำ ซึ่งในอีกสองปีข้างหน้า แม้ว่าจะแข่งขันกันที่อินโดนีเซีย แต่เวียดนามก็มีลุ้นเป็นเจ้าเหรียญทองได้เช่นกัน เพราะอินโดนีเซียนั้นมาตรฐานกีฬาระยะหลังต่ำลงไป หากเป็นเช่นนี้ไทยอาจจะเสียตำแหน่งเจ้าเหรียญทองให้กับเวียดนามได้

ประธานคณะกรรมการโอลิมปิคไทย กล่าวต่อไปอีกว่า เพื่อรักษาผลงานเจ้าเหรียญทองซีเกมส์เอาไว้ หลังจากจบการแข่งขันกีฬาซีเกมส์หนนี้แล้ว จะต้องมีการประเมินผลงานของนักกีฬาไทย และเรียกตัวแทนแต่ละสมาคมกีฬารวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้องมาหารือถึงปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น เกิดขึ้นจากสาเหตุอะไรแล้วเพื่อหาทางแก้ไข

ส่วนจุดไหนดีก็จะใช้เป็นแนวทางปฏิบัติต่อไป ในการเตรียมนักกีฬาไทยเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ในอีกสองปีข้างหน้าที่ประเทศอินโดนีเซีย จะเป็นเจ้าภาพ ซึ่งเป้าหมายของไทยคือต้องป้องกันแชมป์เจ้าเหรียญทองเอาไว้ให้ได้ หากไม่เตรียมการตั้งแต่เนิ่นๆ เรามีสิทธิพลาดพลั้งได้ตำแหน่งเจ้าเหรียญทองจะตกไปอยู่ในมือของชาติอื่น โดยเฉพาะเวียดนามตนมองว่ามีโอกาสสูงที่อนาคตจะก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำด้านกีฬาในย่านอาเซียน

"ช่วงนี้คงไม่ทันเพราะใกล้ปีใหม่แล้ว แต่หลังจากปีใหม่ผ่านไปคาดว่าหลังสัปดาห์ที่สองจะกำหนดวันนัดหมายผู้เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็น การกีฬาแห่งประเทศไทย, สมาคมกีฬา มาร่วมหารือกันหาสาเหตุ ปัญหาของนักกีฬาไทยทำไมทำผลงานหนนี้ได้ไม่ดี

แล้วกำหนดเป็นแผนปฏิบัติเตรียมนักกีฬาขึ้นมาใหม่เพื่อนำเสนอ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแลด้านการกีฬาต่อไป เราจะช้าไม่ได้ต้องรีบดำเนินการ ส่วนสมาคมกีฬาที่ทำผลงานไม่ถึงเป้าจะมีการพิจารณาแน่ ซึ่งแน่นอนอาจจะมีผลถึงงบประมาณช่วยเหลือต่อไปอาจจะตัดงบประมาณช่วยเหลือให้น้อยลง" ประธานคณะกรรมการโอลิมปิคไทยกล่าว

ด้าน ดร.พูทอง แสงอาคม รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่ง สปป.ลาว เปิดเผยถึงความสำเร็จในการเป็นเจ้าภาพซีเกมส์ ครั้งที่ 25 ว่า ภาพรวมออกมาถือว่าเป็นที่น่าพอใจมาก กับครั้งแรกลาวได้รับคำชมทั้งจากชาติอาเซียน คณะกรรมการโอลิมปิกแห่งเอเชีย และโอลิมปิกสากล รัฐบาลและประชาชนชาวลาวเอง ก็พอใจมากกับความสำเร็จที่เกิดขึ้น ที่สำคัญประชาชนชาวลาวต่างได้มีส่วนร่วม การจัดการแข่งขันแต่ละสนามก็ไม่มีปัญหา นอกจากนี้เชื่อว่าจะช่วยบูมการกีฬาของลาวเป็นอย่างมากต่อไปเยาวชนจะหันมาเล่นกีฬามากขึ้น

ดร.พูทอง กล่าวต่อว่า วันที่ 21 ธ.ค. นี้ จะมีการเรียกประชุมคณะกรรมการทุกฝ่ายฯ เพื่อสรุปผลงานและภาพรวมของการแข่งขัน และในส่วนของสนามแข่งขันจากที่พูดคุยกันในเบื้องต้นจะเปิดให้เอกชนเข้ามาประมูลสัปทานไปดำเนินการเพื่อหารายได้ต่อไป

แต่หากไม่มีเอกชนใดสนใจ ก็จะมอบให้กับสหพันธ์กีฬาแต่ละชนิดของลาวเข้าไปใช้ประโยชน์ทั้งในด้านการจัดการแข่งขัน และเตรียมนักกีฬา ส่วนหอพักนักกีฬาจะมอบให้กับกระทรวงศึกษาธิการไปดำเนินการเปิดให้นักศึกษามหาวิทยาลัยแห่งชาติลาวเช่าในราคาถูก

"เหรียญทองเดิมทีเราตั้งเป้าไว้เพียง 25 เหรียญเท่านั้นแต่ครั้งนี้ได้เกินคาดถึง 33 เหรียญทอง ส่วนอนาคตเราก็อยากเป็นเจ้าภาพกีฬาอีก เพราะตอนนี้เรามีประสบการณ์ตรงนี้แล้ว อาทิ ฟุตบอลเอเชียนคัพ, กีฬา 5 ชาติลุ่มน้ำโขงมี ไทย, ลาว, กัมพูชา, เมียนมาร์ และเวียดนาม หรือกีฬาอื่นอย่างอินดอร์-มาเชี่ยลอาร์ทเกมส์ รวมถึงกีฬาซีเกมส์เราก็อยากจะจัดอีกอาจจะอีกสัก 6 ปี ซึ่งจัดคราวนี้ก็จะกระจายไปยังเมืองอื่นด้วยเช่น หลวงพระบาง เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว"

Advertisement

------------------------------------------------------------------------------------------------------------
------------------------------------------------------------------------------------------------------------

พิธีปิดการแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 25 ประเทศลาว

Advertisement

------------------------------------------------------------------------------------------------------------
------------------------------------------------------------------------------------------------------------

จบการแข่งขันฟุตบอลนัดชิงชนะเลิศซีเกมส์ 2009 ด้วยชัยชนะของทีมฟุตบอลมาเลซีย
กับไฮไลท์ฟุตบอลซีเกมส์ ครั้งที่ 25 นัดชิดงชนะเลิศ ระหว่างมาเลเซีย 1-0 เวียดนาม

Advertisement

------------------------------------------------------------------------------------------------------------
------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ลาวปิดฉากซีเกมส์ประทับใจ พิธีดับไฟเรียบง่าย เพียงหรี่ไฟบนกระถางคบเพลิงจนดับ ไม่มีเซอร์ไพร้สเหมือนพิธีเปิด ก่อนโชว์การแสดงยาวเหยียด ตระการตาทั้งศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน และแสงสีไฮเทค ลาวปลื้ม ฌัก ร็อก ประธานโอลิมปิกสากล ยังฝากชื่นชมที่ลาวจัดซีเกมส์ได้สำเร็จ

การแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 25 "เวียงจันทน์เกมส์" ที่ประเทศลาว เมื่อวันที่ 18 ธ.ค. ที่ผ่านมา ในช่วงเย็น ที่สนามกีฬาแห่งชาติลาว หลัก 16 ได้มีพิธีปิด การแข่งขัน "เวียงจันทน์เกมส์" หลังจากที่ได้เปิดฉากมาอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. ที่ผ่านมา

โดยบรรยากาศในสนามวันนี้ค่อนข้างน่าแปลกใจ ไม่คึกคักเหมือนพิธีเปิด เมื่อมีประชาชนเข้ามาชมไม่เต็มความจุของสนาม ก่อนชุดการแสดงเจ้าภาพ ได้เรียกน้ำย่อย ด้วยการขับร้องเพลงของศิลปินดังจาก 10 ชาติในอาเซียน สำหรับไทยนั้นเป็น "ปาน" ธนพร แวกประยูร ที่มาขับร้องเพลงชื่อ "ใจนำพา" ซึ่งได้รับเสียงปรบมือทั้งสนาม

จากนั้นท่าน บัวสอน บุปผาวัน นายกรัฐมนตรีของ สปป.ลาว ประธานในพิธีปิดการแข่งขัน ได้เดินทางมาถึงปรัมพิธี พร้อมด้วย "เสธ.หนั่น" พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรีของไทย ในฐานะกำกับดูแลการกีฬา จากนั้นเป็นขบวนของนักกีฬาแต่ชาติ เดินเข้าสู่สนาม โดยเจ้าภาพจัดขบวนตามชนิดกีฬาทั้ง 25 ชนิด ที่มีแข่งขันใน "เวียงจันทน์เกมส์"

หลังจากที่นักกีฬาเดินเข้าสู่สนามครบ นายสมสะหวาด เล่งสะหวัด รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการจัดการแข่งขัน ก็ได้ขึ้นกล่าวรายงานต่อประธานปิดการแข่งขัน โดยรายงานผลการแข่งขัน พร้อมชื่นชมนักกีฬาที่ซีเกมส์หนนี้ มีการทำลายสถิติกันมากมาย โดยเฉพาะกรีฑา, ว่ายน้ำยิงปืน พร้อมกับกล่าวยกย่อง ดาเนียล เอ็กโก้ ฉลามหนุ่มจากมาเลเซีย และ กั๊ว อิง เมล เงือกสาวจากสิงคโปร์ ที่ครองราชาและราชนีเหรียญทอง เมื่อทำไป 5 ทองเท่ากัน

ต่อมา ท่านบัวสอน บุปผาวัน ได้กล่าวปิดการแข่งขัน พร้อมกล่าวเชื้อเชิญให้นักกีฬาแต่ละชาติไปร่วมแข่งขันซีเกมส์ในอีกสองปีข้างหน้าที่ กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย ในปี 2554 จากนั้นไฟ การแข่งขันในกระถางคบเพลิงได้ค่อยๆ มอดลง

ตามด้วยตัวแทนจากโอลิมปิกสากล มร.เซอร์ มิง เยอ มากล่าว ซึ่งได้กล่าวชมเจ้าภาพลาวจัดได้เยี่ยมยอด พร้อมบอกว่าแม้แต่ ฌักส์ ร็อก ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกสากลยังออกมาชม ต่อมาเป็นการเชิญธงซีเกมส์ ลงจากยอดเสา แล้วทำการส่งมอบธงเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 26 ต่อให้กับคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศอินโดนีเซีย ที่มี มร.แอนดี้ มาลลารังเกง รมต.กระทรวงเยาวชนและการกีฬาอินโดนีเซีย เป็นผู้รับธง

และหลังจากรับธงแล้ว ก็ได้กล่าวเชื้อเชิญชาติสมาชิกร่วมแข่งขันซีเกมส์ที่กรุงจาการ์ตา ซึ่งอินโดนีเซีย พร้อมให้การต้อนรับ จากนั้นขบวนนักกีฬา ได้เดินออกจากสนาม เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนของการแสดงต่อไป โดยเริ่มต้นด้วยการแสดงของอินโดนีเซียชาติเจ้าภาพครั้งต่อไป

จากนั้นเป็นการแสดงชุดที่ 1 นั้น ชื่อชุด "ม่างเครือเขากาด" เป็นการแสดงเกี่ยวกับตำนาน "ปู่เยอย่าเยอ" ในนิทานพื้นบ้านของลาว ที่เล่าถึงเมืองแถน ที่ได้มี "เครือเขากาด" ยักษ์เครือหนึ่ง ได้ขึ้นไปถึงสวรรค์ และปกคลุมลงมาถึงพื้นดินจนบดบังแสงสว่างจากดวงอาทิตย์ ทำให้โลกมืดมิด ประชาชนเดือดร้อนไปทั่ว ทำมาหากินไม่ได้

ต่อมามี "ปู่เยอย่าเยอ" ขันอาสาเจ้าเมืองแถน ไปตัดทำลายเครือเขากาดนั้น และเนื่องจากเครือเขากาดมีขนาดใหญ่ ทำให้ต้องใช้เวลาตัดอยู่นานถึง 3 เดือน 3 วัน กว่าจะโค่นลงได้แต่ เครือเขากาดก็ได้ล้มทับ "ปู่เยอย่าเยอ" เสียชีวิต ณ ที่นั้น แต่ก็ได้ช่วยให้บ้านเมืองกลับมามีแสงสว่างอีกครั้ง ประชาชนทำมาหากินได้ตามปกติ พร้อมกับได้มีการสักการะเพื่อระลึกถึงคุณงามความดีของปู่เยอย่าเยอนับแต่นั้นมา

ชุดที่ 2 ชื่อ "บุญปีใหม่บ้านเฮา" เป็นการแสดงถึงงานเทศกาลวันสงกรานต์ หรือวันปีใหม่ของลาว ที่จะสื่อถึงขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงาม ที่มีมาแต่โบราณกาล ซึ่งเป็นการแสดงเล่นน้ำสงกรานต์ ที่เต็มไปด้วยความสนุกสนานรื่นเริง จากนักแสดงที่แต่งชุดเล่นน้ำงานสงกรานต์

ชุดที่ 3 "บุญเซิ้งบั้งไฟ" เป็นการแสดงงานบุญเซิ้งบั้งไฟ ของชนเชื้อชาติลาวสองฝั่งโขงที่มีอารยธรรมมาแต่โบราณกาลที่สามารถนำเอา "บั้งไฟ" ที่มีน้ำหนักมาก ขึ้นสู่ท้องฟ้า ได้เพื่อขอฟ้าขอฝนให้ตกต้องตามฤดูกาล เพื่อให้ประชาชนได้ทำการเกษตรปลูกข้าว จนกลายเป็นประเพณีสืบต่อกันมา จนกระทั่งปัจจุบัน และเป็นประเพณี ที่มีส่วนในการสร้างเสริม กำลังใจแก่ชาวบ้าน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งชุดที่ทำได้อย่างสวยงามประทับใจ

ตามด้วยการแสดงชุดที่ 4 "บุญเซิ้งบุญแข่งเรือ" เป็นการแสดงชุดต่อจากชุด "บุญเซิ้งบั้งไฟ" ที่สื่อถึงภายหลังจากที่ประชาชนได้ทำการเกษตรกรรมแล้ว ก็จะเป็นงานรื่นเริงเมื่อถึงเดือนตุลาคมตามหลักสากล หรือเดือน 11 ของลาวนั้น ที่จะมีงานประเพณีบุญแข่งเรือสร้างความสุข สนุกสนานให้กับชาวบ้านได้ร่วมกิจกรรม เกิดความสมัคคีก่อนเข้าสู่ฤดูกาลเก็บเกี่ยวพื้ชผลทางการเกษตร และหลังการแสดงชุดนี้แล้ว เป็นชุดสุดท้าย

ชุดที่ 5 ที่มีชื่อว่า "จับมือกันก้าวเดิน" เป็นการแสดงสื่อถึงการแข่งขันกีฬา ที่จะมีทั้งความสุขสมหวัง และผิดหวัง แต่ทั้งนี้ก็เป็นเรื่องของกีฬาแข่งขันเพื่อสร้างมิตรภาพ ทั้งผู้แพ้ และผู้ชนะ ก็พร้อมจับมือก้าวเดินไปด้วยกัน จากนั้นจะเป็นการแสดง "ฟ้อนรำวง" ที่จะเป็นรำวง ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดใช้นักแสดงจากทุกชุดกว่า 8ꯠ พันคนเป็นชุดสุดท้าย ก่อนที่จะมีการจุดพลุ ที่ความสวยงามตระการตากล่าวอำลากีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 25 "เวียงจันทน์เกมส์" อย่างเป็น

Advertisement

------------------------------------------------------------------------------------------------------------
------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ทัพนักกีฬาไทย เฉือนเวียดนาม ครองเจ้าเหรียญทอง "เวียงจันทน์เกมส์" แบบบีบหัวใจ เมื่อทำไป 86 ทอง ทิ้งนักกีฬาญวนแค่ 3 ทอง หลังเวียดนามทำไป 83 ทอง กองเชียร์ต้องลุ้นระทึก หลังเวียดนามจ่อชิงเพียบ แต่แผ่วได้แค่ 2 ทอง ส่วนทัพไทย ฟาดเพิ่ม 2 ทองจาก เทนนิสคู่ผสม และเปตองทีมหญิง ส่งให้ไทยย้ำชัยเหนือเวียดนามอย่างเด็ดขาด ขณะที่เงินอัดฉีด กองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ พุ่งถึง 83 ล้าน สมาคมกรีฑาฯ อู้ฟู้เหมา 14 ทอง รับได้ไป 11.4 ล้านบาท

การขับเคี่ยวแย่งตำแหน่งเจ้าเหรียญทอง ซีเกมส์ ครั้งที่ 25 "เวียงจันทน์เกมส์" ของไทย กับ เวียดนาม ซึ่งเมื่อวันที่ 17 ธ.ค.ที่ผ่านมา ไทย แซงหน้าเวียดนามแค่ 3 เหรียญทอง โดยทำได้ 84 ทอง 80 เงิน 95 ทองแดง ส่วน เวียดนาม มี 81 ทอง 71 เงิน และ 57 ทองแดง โดยการชิงชัยวันสุดท้าย เมื่อ 18 ธ.ค. ที่ผ่านมา มี 8 เหรียญทอง จาก ยิงปืน 2 ทองจากปืนสั้นชนวนกลาง บุคคล และทีม, เปตอง 2 ทองจากทีมชาย-หญิง, ตะกร้อ 2 ทองจาก คู่ชาย-หญิง และ เทนนิส 2 ทองจากคู่ผสม และชายเดี่ยว

ปรากฏว่าในช่วงเช้า เวียดนาม เริ่มต้นได้อย่างน่ากลัว เมื่อเก็บ 2 ทองจากยิงปืน และเปตอง ทีมชาย ส่วน ไทย เพิ่มอีก 1 ทองจาก เทนนิส คู่ผสม ทำให้ตารางเหรียญรวมขยับใกล้ไทยที่ 83 ทอง ตามไทยแค่ 2 ทองเท่านั้น ขณะเดียวกัน ตะกร้อ หญิงคู่ไทย ที่ชิงกับ พม่า ซึ่งเป็นเหรียญที่คาดหมายว่าจะเป็นของไทย กลับพลาด ทำให้สถานการณ์ของไทยไม่ดีนัก

อย่างไรก็ตามในช่วงบ่าย ทัพไทย ได้เหรียญทองเพิ่มจาก เปตอง ทีมหญิง โดยเอาชนะเวียดนามไปได้ ขณะเดียวกัน ทัพกีฬาจากเวียดนาม กลับแผ่วปลายเมื่อ พลาดเหรียญทองตะกร้อชายคู่ และยิงปืน ทำให้หมดสิทธิ์แย่งบัลลังก์เจ้าเหรียญทองจากไทยทันที

โดยไทยคว้าเจ้าเหรียญทองเวียงจันทน์เกมส์ ทำไปได้ 86 ทอง 83 เงิน 97 ทองแดง ส่วน เวียดนามตามมาที่ 2 โดยทำได้ 83 ทอง 75 เงิน และ 57 ทองแดง ส่วนที่ 3 เป็นของ อินโดนีเซีย 43 ทอง 53 เงิน 74 ทองแดง ขณะที่ ลาว เจ้าภาพ รั้งที่ 7 ทำไป 33 ทอง 25 เงิน 52 ทองแดง

รัฐแจกอัดฉีด 83 ล้าน กรีฑาอู้ฟู้
ด้าน เงินรางวัลอัดฉีดจากกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ ที่รัฐบาลไทย เตรียมนำมอบเป็นโบนัส ให้กับนักกีฬาที่คว้าเหรียญ จากการแข่งขันเวียงจันทน์เกมส์ ตามหลักเกณฑ์เหรียญทองเหรียญละ 200ꯠ บาท, เหรียญเงิน 100ꯠ บาท และ เหรียญทองแดง 50ꯠ บาท

ซึ่งนักกีฬาไทยคว้ามาได้ 86 เหรียญทอง 83 เหรียญเงิน และ 97 เหรียญทองแดงนั้น ทำให้มียอดอัดฉีด เฉพาะนักกีฬาทั้งตัวจริง และตัวสำรองเป็นเงิน 53겲ꯠ บาท ขณะที่สมาคมกีฬาได้รับ 30 เปอร์เซ็นต์ เป็นเงิน 15꾣ꯠ บาท ส่วนผู้ฝึกสอนได้รับ 20 เปอร์เซ็นต์ รวมเป็นเงิน 13꾂ꯠ บาท ทำให้มียอดอัดฉีดรวมทั้งสิ้น 83걇ꯠ บาท

โดย สมาคมกรีฑาฯ ที่คว้าไป 14 เหรียญทอง 20 เงิน 14 ทองแดง สามารถคว้าเงินอัดฉีดได้มากที่สุด โดยทำไป 11.4 ล้านบาท ส่วนกีฬาที่ได้ยอดเงินอัดฉีดน้อยที่สุด คือคาราเต้ ที่คว้าได้เพียง 7 เหรียญทองแดง รับไป 3.5 แสนบาทเท่านั้น

Advertisement

------------------------------------------------------------------------------------------------------------
------------------------------------------------------------------------------------------------------------

"ตีโต้" ศุภนร ศุขสวัสดิ ณ อยุธยา ดาวรุ่งนักกระโดดไกลทีมชาติไทย โชว์เจ๋งกัดฟันทนเจ็บ โดดครั้งสุดท้ายทำ สถิติ 7.83 ม. แซงนักกีฬาจากฟิลิปปินส์ ที่ทำได้ 7.74 ม. คว้าเหรียญทองมาครองสำเร็จ เจ้าตัวเผยยังไม่ดีที่สุด เพราะเคยทำได้ถึง 7.96 ม. วางเป้าหมายไปคือ ลุยโอลิมปิกเกมส์ ปี 2012 ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ให้ได้

การแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 25 "เวียงจันทน์เกมส์" เมื่อวันที่ 15 ธ.ค. 52 ที่ผ่านมา กรีฑา ชิง 6 ทอง ที่เมนสเตเดี้ยม สนามกีฬาแห่งชาติลาว หลัก 16 โดยกระโดดไกล ชาย ไทยส่ง "ตีโต้" ศุภนร ศุขสวัสดิ ณ อยุธยา เจ้าของเหรียญทองเยาวชนโลก และ ธีรยุทธ พิลาคง เจ้าของเหรียญทองเขย่งก้าวกระโดด ลงสู้

โดย ศุภนร เริ่มต้นไม่ดีนัก เมื่อทำได้แค่ 7.50 ม. ตามหลัง โจเบิร์ท ดิลิกาโน่ จากฟิลิปปินส์ กว่า 10 ซม. ก่อนที่ "เจ้าตีโต้" จะมาขึ้นนำในการโดดครั้งที่ 3 เมื่อทำไป 7.70 ม. แต่ ดิลิกาโน่ ก็แซงคืนที่ 7.72 ม. สถานการณ์ของไทยกดดันอย่างหนัก เพราะ ธีรยุทธ หมดลุ้นไปแล้วที่ 7.64 ม.

ส่วน ตีโต้ ดาวรุ่งคนเก่งทำฟาวล์ไปหมด เหลือการกระโดดครั้งสุดท้ายเท่านั้น อย่างไรก็ตาม โอกาสสุดท้ายของเด็กไทยก็เป็นจริง เมื่อเด็กหนุ่มจากเชียงใหม่ พุ่งทะยานไปไกลถึง 7.83 ม. คว้าเหรียญทองไปทันที โดยเหรียญเงินเป็นของ ดิลิกาโน่ จากฟิลิปปินส์ 7.74 ม. และเหรียญทองแดงเป็นของ เฮนดรี้ ดากมิล จากฟิลิปปินส์ 7.72 ม.

หลังแข่ง ศุภนร เปิดเผยว่า ดีใจมากที่คว้าเหรียญทอง เพราะตั้งใจมาตั้งแต่ก่อนแข่งว่าจะแย่งเหรียญทองเหรียญนี้ กลับคืนสู่ประเทศไทยให้ได้ แม้ว่าช่วงก่อนแข่งจะมีอาการเจ็บหลังทำให้ไม่สามารถฝึกซ้อมได้เต็มที่ และช่วงแข่งหลังการกระโดดครั้งที่ 3 ก็เจ็บข้อเท้าซ้ายเพิ่มอีก แต่ก็กัดฟันทนเจ็บคว้าเหรียญทองได้สำเร็จ

สำหรับสถิติที่ทำได้ถือว่ายังไม่ดีที่สุด เนื่องจากเคยทำได้ถึง 7.96 ม. ในการแข่งขันเอเชียน สกูล ที่ จ.สุพรรณบุรี สำหรับเหรียญทองนี้ อยากจะมอบให้คุณพ่อกับคุณแม่เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ในปีนี้ ส่วนเรื่องของการเรียนที่ก่อนหน้านี้มีข่าวว่าตนจะไปต่างประเทศนั้น อาจจะมีการเปลี่ยนแปลง

เนื่องจากขณะนี้กำลังรอสัมภาษณ์ เพื่อเข้าศึกษาคณะนิติศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ ซึ่งถ้าได้คงจะอยู่ที่เมืองไทย สำหรับเป้าหมายต่อจากนี้จะพยายามเป็นตัวแทนทีมชาติไทย เพื่อเข้าร่วมการแข่งขันในโอลิมปิกเกมส์ ปี 2012 ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ให้ได้

ส่วนผลรายการอื่นๆ มีดังนี้ เดิน 20 กม. หญิง ที่ 1 คีขิ่น มยอ ตัน (พม่า) 1.45.06 ชม. ที่ 2 ดาร์วาตี (อินโดนีเซีย) 1.45.23 ชม. ที่ 3 ชอ มาร์ ลอร์ นวี (พม่า) 1.46.56 ชม. ส่วน ธนภรณ์ อัศววงศ์เจริญ ของไทยได้ที่ 5 สถิติ 1.56.39 ชม., เดิน 20 กม. ชาย ที่ 1 โตะ บุน ลิม (มาเลเซีย) 1.31.28 ชม. ที่ 2 อินดรา อับดุล กาดรี้ (อินโดนีเซีย) 1.32.09 ชม. ที่ 3 คริสเตียน โตบิง (อินโดนีเซีย) 1.33.35 ชม. ส่วน วีระพันธ์ อนันตชัย ของไทยได้ที่ 5 สถิติ 1.46.08 ชม., ขว้างค้อน หญิง ที่ 1 ตัน ซอง วา (มาเลเซีย) 56.41 ม. ที่ 2 โรเซ่ เฮอร์รินด้า (อินโดนีเซีย) 54.12 ม. ที่ 3 รัตนา สุระประเสริฐ (ไทย) 48.0 ม.

Advertisement

------------------------------------------------------------------------------------------------------------
------------------------------------------------------------------------------------------------------------

"บิ๊กป๊อก" ปองพล อดิเรกสาร นายกสมาคมยิงปืนแห่งประเทศไทย เผยตัดขาด "ซูเปอร์เอ็กซ์" จักรกฤษณ์ พณิชย์ผาติกรรม นักแม่นเป้าทีมชาติแน่นอน ยืนยันไม่มีสิทธิ์คืนทีมชาติไทยอีกต่อไป

หลังจากที่เมื่อช่วงเช้าของวันอังคารที่ 15 ธันวาคมนี้ ณ สนามยิงปืนที่อยู่บริเวณสนามกีฬาแห่งชาติ กม. 16 มีกระแสข่าวว่า "บิ๊กป๊อก" ปองพล อดิเรกสาร นายกสมาคมยิงปืนแห่งประเทศไทย เตรียมเดินทางมาให้กำลังใจลูกทีมในศึก "เวียงจันทน์เกมส์" ทว่าด้วยจำนวนผู้สื่อข่าวที่มาดักรออยู่เป็นจำนวนมาก เพื่อสอบถามความคืบหน้ากรณีที่ "หนุ่มเอ็กซ์" จักรกฤษณ์ พณิชย์ผาติกรรม นักแม่นปืนทีมชาติไทย ถูกถอดจากการเป็นนักกีฬา แถมยังถูกทางการลาว ส่งกลับประเทศ เนื่องจากเปิดแถลงข่าวโดยไม่ได้ขออนุญาต เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา

ส่งผลให้ "บิ๊กป๊อก" เปลี่ยนแผนการเดินทางด้วยการเข้าชมการแข่งขันตะกร้อทีมเดี่ยวหญิง และชาย นัดชิงชนะเลิศ บริเวณที่นั่งชั้นวีไอพี ของ ฮอลล์ 1 ภายในศูนย์การค้าลาว-ไอเทค ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดของเจ้าหน้าที่ พร้อมทั้งห้ามสื่อมวลชนเข้าพื้นที่ดังกล่าว

อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าว MGR Sport ที่เกาะติดสถานการณ์ดังกล่าวไปดักรอบริเวณทางเข้าห้องน้ำ กระทั่งได้พบกับประมุขแห่งสมาคมยิงปืนไทย ซึ่งได้เปิดเผยถึงการเดินทางร่วมทีมซีเกมส์ของ "หนุ่มเอ็กซ์" ว่า "ที่ จักรกฤษณ์ ได้มาร่วมทีมครั้งนี้ก็มาด้วยคำสั่งของศาลปกครองกลาง ที่จะคุ้มครองเฉพาะการร่วมทีมลุยซีเกมส์ครั้งนี้เท่านั้น หลังจากการแข่งขันครั้งนี้ ระหว่างสมาคมยิงปืนกับ ตัวนักกีฬาคนนี้ก็ถือเป็นอันจบสิ้นกัน สมาคมของเราจะไม่รับรองนักกีฬายิงปืนคนนี้อีกต่อไป"

ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงการพูดคุยกันทั้งสองฝ่ายเพื่อยุติปัญหาความขัดแย้งยาวนานนั้น "บิ๊กป๊อก" ยืนยันว่าไม่จำเป็นต้องพูดคุยอะไรกันอีกแล้ว

"สำหรับผมทุกอย่างจบแล้ว ไม่มีอะไรต้องมานั่งคุยกันอีก เพราะคนผิดก็ไม่ยอมรับผิด จักรกฤษณ์ ควรจะหันกลับมามองตัวเองบ้าง โดยเฉพาะกรณีที่ถูกทางการลาวส่งตัวกลับประเทศ หลังจากกล่าวหาว่าตัวเองโดนกลั่นแกล้ง เขาต้องยอมรับผิด และยืนยันด้วยว่าต่อให้เขามาขอโทษต่อเรื่องที่เกิดขึ้นกับผม ก็จะไม่มีการยกโทษให้ด้วย เพราะผมเข็ดขยาดแล้ว ไม่อยากทำคุณบูชาโทษอีก" ประมุขสมาคมแม่นเป้ากล่าวก่อนจะขอตัวกลับไปชมการแข่งขันตะกร้อต่อไป

Advertisement

------------------------------------------------------------------------------------------------------------
------------------------------------------------------------------------------------------------------------

มวยไทยกวาดมาได้อีก 6 เหรียญทองในวันสุดท้ายของการแข่งขันมวยไทยสากลสมัครเล่นในกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 25 ณ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
เมื่อช่วงเย็นวันอังคารที่ 15 ธันวาคม 2552 มีการชิงชัยในกีฬามวยไทย "เวียงจันทน์เกมส์" อีก 4 เหรียญทองส่งท้าย ปรากฏว่า ไทยกวาดมาได้ทั้งหมด

เริ่มจาก วัลยา วัลยา ป้องทา ชนะคะแนน ฟาน ธิ ง็อก ลินห์ (เวียดนาม) 5-0 ในรุ่น 54 กก.หญิง, นัฐกร ทองงาม ต้อน บัววัน จันทะลี (ลาว) 5-0 รุ่น 45 กก.ชาย, ธีรวัฒน์ วรรณลี ชนะคะแนน นัต เหงียน ตรัน ดุย (เวียดนาม) 4-1 ในรุ่น 57 กก.ชาย และ วีรพล กว้างขวาง ล้ม โจนาธาน โปโลซาน (ฟิลิปปินส์) 4-1 ในรุ่น 63.5 กก.ชาย ขณะที่ เดือนนภา คงเฟือง เพิ่งขึ้นรับเหรียญทองแดง รุ่น 57 กก.หญิง โดยเหรียญทองได้แก่ ไปลอ ไซดาว (ลาว) ขณะที่ เหรียญเงินเป็นของ ตรัน ธิ เฮือง (เวียดนาม)

ภายหลังการแข่งขัน นายอิทธิพล ช่วงมณี โค้ชมวยไทย ออกมาให้สัมภาษณ์กับทีมข่าว MGR Sport ว่า "ดีใจที่ได้มา 6 เหรียญทอง รักษาตำแหน่งจ้าวเหรียญทองมวยไทยได้อีกสมัย (ไทยได้ 6 ทอง ลาวได้ 5 ทอง) โดยกีฬามวยไทยสมัครเล่นในซีเกมส์ครั้งนี้ เรียกได้ว่ามีความสุขทุกฝ่ายที่เข้าแข่งขัน เนื่องจาก เมียนมาร์ มีเหรียญ ส่วน เวียดนาม และ ฟิลิปปินส์ ก็มีเหรียญติดมือเช่นกัน คิดว่าซีเกมส์ครั้งต่อไป มวยไทยน่าจะเป็นที่นิยมขึ้น คงมีชาติสมาชิกอาเซียนเข้าแข่งขันมากกว่านี้"

"ทั้งนี้ผมก็อยากเชิญชวนให้คนไทยที่ได้รับชมการแข่งขันแล้วสนใจ หันมาลองเล่นดู เพราะมวยไทยสมัครเล่นไม่อันตรายอย่างที่คิด อีกทั้งสามารถหารายได้เลี้ยงตัวเอง เลี้ยงครอบครัวได้ด้วย และผมอยากจะยกตัวอย่างว่า เด็กๆ ที่ผมดูแลอยู่นั้น ต่างก็ได้สวัสดิการ ที่พัก การศึกษาฟรี" โค้ชอิทธิพล กล่าวเสริม

สุดท้าย โค้ชมวยไทยทิ้งท้ายถึงประเด็นที่ นัฐกร ออกมายอมรับว่ารู้สึกกดดันกับการลงแข่งกับเจ้าภาพ เนื่องจากอาจมีการเมืองแทรก ซึ่งเรื่องนี้ โค้ช อิทธิพล เผยว่า "เป็นธรรมดาที่เจ้าภาพต้องการเป็นจ้าวเหรียญทองในกีฬาที่คาดหวัง ผมไม่รู้ว่ามีเกมการเมืองอะไรหรือไม่ หน้าที่ของผมคือไม่ประมาทสั่งให้เด็กลุยทำคะแนนอย่างเดียว เนื่องจากหากคะแนนสูสีจะเป็นอันตรายกับเราเอง"

Advertisement

------------------------------------------------------------------------------------------------------------
------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ทัพนักหวดลูกพลาสติกสาวไทย ป้องกันเหรียญทองประเภททีมเดี่ยวในศึก ซีเกมส์ ครั้งที่ 25 ณ กรุงเวียงจันทน์ สปป.ลาว เอาไว้สำเร็จ หลังจากพลิกชนะ เวียดนาม ไปอย่างสุดมัน 2-1 เซต

การแข่งขันตะกร้อทีมเดี่ยวหญิงประจำศึก "เวียงจันทน์เกมส์" ดำเนินมาถึงนัดชิงชนะเลิศเมื่อวันอังคารที่ 15 ธันวาคมที่ ฮอลล์ 1 ภายในศูนย์การค้าลาว-ไอเทค ไทย ส่ง ธิดาวรรณ ดาวสกุล, อารีรัตน์ ตาขัน และ นิตินัดดา แก้วคำไสย์ ลงเจอกับ เวียดนาม

ปรากฎว่าเซตแรก เวียดนาม ทำแต้มทิ้งห่าง แม้ว่า ไทย จะพยายามยกระดับเกม แต่ดูเหมือนเครื่องจะร้อนช้าเกินไป ทำให้สาว เวียดนาม ชนะไปก่อน 21-19 แต่ทว่า ไทย แก้เกมมาดีในเซตที่สองและสามเล่นอย่างไร้ปัญหาเอาชนะไปอย่างไม่ยากเย็น 21-8,15-9

ทำให้ตะกร้อสาวไทย เอาชนะ เวียดนาม 2-1 เซต 19-21,21-8,15-9 คว้าเหรียญทองประเภททีมเดี่ยวไปครอง

ภายหลังการแข่งขัน นายวีรัส ณ หนองคาย ผู้ฝึกสอนทีมตะกร้อหญิง ออกมาให้สัมภาษณ์ผ่าน MGR Sport "รู้สึกโล่งใจทันที หลังจากที่เซตแรกเราพลาดไปก่อน อาจเป็นเพราะ ธิดาวรรณ พยายามรับลูกเสิร์ฟของเวียดนาม มากเกินไป ซึ่งเซตสองผมมีการปรับให้เราหันมารับลูกเสิร์ฟด้วยศีรษะเพื่อเปิดเกม และก็ทำได้ดีขึ้น จนทุกอย่างกลับมาเข้าทางเรา วันนี้ต้องชื่นชมนักตะกร้อหญิงทั้ง 3 คน เรียกได้ว่าสามคนนี้เป็นนักตะกร้อหญิงที่ดีที่สุด ณ เวลานี้เลยก็ว่าได้"

สุดท้าย นายวีรัส ทิ้งท้ายกับเป้าหมายต่อไป "หลังจากที่เราได้มาแล้วทั้งตะกร้อทีมชุด, ตะกร้อทีมเดี่ยว ผมก็หวังว่าเราจะได้เหรียญที่สามในซีเกมส์ครั้งนี้มาครองได้ โดยเราจะมีโปรแกรมแข่งตะกร้อคู่ในวันพรุ่งนี้ โดยจะประเดิมเจอกับเจ้าภาพ ลาว (09.00 น.) และพบ อินโดนีเซีย (11.30 น.)

Advertisement

------------------------------------------------------------------------------------------------------------
------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ทัพนักหวดตะกร้อชายไทย ทำได้สำเร็จตามเป้าป้องกันเหรียญทองประเภททีมเดี่ยวในศึก ซีเกมส์ ครั้งที่ 25 ณ กรุงเวียงจันทน์ สปป.ลาว เอาไว้ได้สำเร็จ หลังจากเอาชนะเจ้าภาพ 2-0 เซต 21-16,21-10

การแข่งขันตะกร้อทีมเดี่ยวชายศึก "เวียงจันทน์เกมส์" ดำเนินมาถึงนัดชิงชนะเลิศเมื่อวันอังคารที่ 15 ธันวาคมที่ ฮอลล์ 1 ภายในศูนย์การค้าลาว-ไอเทค ไทย ส่ง เกรียงไกร แก้วเมียน, อนุวัฒน์ ชัยชนะ และ ภัทรพงษ์ ยุพดี ลงเจอกับเจ้าภาพ ลาว ที่พลิกผ่าน มาเลเซีย มาได้

เซตแรก ไทย ออกสตาร์ทนำไปก่อน แต่ทว่า ลาว สู้ได้อย่างสูสี โดยเฉพาะลูกเสิร์ฟและลูกบล็อกที่สร้างปัญหาได้ตลอด จนกระทั่งตีเสมอ 14-14 ได้สำเร็จ อย่างไรก็ตาม ไทย นิ่งกว่าทำแต้มหนีไปอีก 18-14 ก่อนจะเข้าป้ายเก็บเซตแรกไปก่อนด้วยสกอร์ 21-16

เข้าสู่เซตที่สองรูปเกมยังเหมือนเซตแรก ไทย ฉีกนำไปก่อนส่วน ลาว พยายามทำแต้มกระชั้น แต่ทว่า ไทย แก้เกมมาดีและพยายามบุกหนัก ทำให้ทัพหวดพลาสติกเจ้าภาพเริ่มรวนก่อน ไทย นำห่าง 17-10 และชนะไปอย่างไม่ยากเย็น 21-10 ทำให้ ไทย ชนะ ลาว 2-0 เซต 21-16,21-10 คว้าเหรียญทองไปครอง

ภายหลัง นายกมล ตันกิมพงษ์ โค้ชตะกร้อทีมชาย ออกมาให้สัมภาษณ์กับทีมข่าว MGR Sport "ก่อนอื่นต้องขอชมเชยเจ้าภาพลาวที่เล่นได้อย่างยอดเยี่ยม นี่ถือเป็นฟอร์มระดับท็อปของลาว ส่วนหนึ่งคงมาจากการที่พวกเขามีแรงกระตุ้นในการเข้าชิงครั้งแรก มีลูกฮึดขึ้นมาและก็ไร้ความกดดันเวลาเจอกับเรา ส่วนผลงานของเราวันนี้ก็ถือว่าพอใจที่คว้าแชมป์ตะกร้อทีมเดี่ยวได้เป็นสมัยที่ 7 ซึ่งก็ถือว่าโชคดีด้วยที่ ลาว สามารถเอาชนะ มาเลเซีย มาได้ เพราะถ้าเจอตะกร้อมมาเลย์ งานน่าจะยากกว่านี้ อย่างไรก็ตาม ก็ต้องขอชมเชยนักกีฬาดาวรุ่งทั้ง 3 คนที่เล่นกันอย่างยอดเยี่ยม เรียกว่าขึ้นมากกดดันรุ่นพี่ๆ แล้ว และน่าจะเป็นตัวหลักของทีมในอนาคตได้ไม่ยาก

Advertisement

------------------------------------------------------------------------------------------------------------
------------------------------------------------------------------------------------------------------------

มาดูไฮไลทฟุตบอลซีเกมส์ แมทรองชนะเลิศระหว่าง เวียดนาม 4:1 สิงคโปร

ลาว 1:3 มาเลเซีย

Advertisement

------------------------------------------------------------------------------------------------------------
------------------------------------------------------------------------------------------------------------

แข้งสาวไทย เนื้อหอม มร.ฟูชิตะ ผู้ชำนาญการด้านฟุตบอลหญิงของ เอเอฟซี ชาวญี่ปุ่น ดอดชมฟอร์ม ยก สุภาภรณ์ แก้วแบน, จันทร์เพ็ญ สีเสริม, วิลัยพร บุตรด้วง และ อรทัย ศรีมณี มีทักษะเยี่ยม แค่สร้างความแข็งแกร่งอีกนิด มั่นใจไปเล่นลีกยุโรปสบาย เตรียมส่งรายชื่อ พร้อมฟอร์มการเล่น ให้สโมสรใหญ่ในลีก เยอรมนี, อเมริกา, ญี่ปุ่น พิจารณา ด้าน เฟร็ดดี้ มาร์รินโญ่ กุนซือใหญ่ มั่นใจเชือด เวียดนาม คว้าแชมป์ 100 เปอร์เซ็นต์ ส่วนเงินอัดฉีดทะลุถึง 4 ล้านบาทแล้ว

ความเคลื่อนไหวของนักเตะสาวทีมชาติไทย ที่มีคิวลงลุยศึกฟุตบอลซีเกมส์ ครั้งที่ 25 "เวียงจันทน์เกมส์" ภายหลังจากที่โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม ใน 4 นัดรอบแรก ด้วยการเอาชนะ มาเลเซีย 14-0, เสมอ เมียนมาร์ 1-1, ชนะลาว 4-1 และเสมอ เวียดนาม 2-2 เก็บ 8 แต้ม ตบเท้าเข้าชิงชนะเลิศกับทีมชาติเวียดนาม เป็นที่เรียบร้อยแล้ว วันที่ 16 ธ.ค. นี้ ที่สนามเจ้าอนุวงศ์ เวลา 16.00 น.

วางหมากเครียดมั่นใจชนะชัวร์
แข้งสาวไทย ได้ทำการฝึกซ้อมเพียงแค่มื้อเย็น ที่สนาม ม.แห่งชาติลาว โดยก่อนการลงฝึกซ้อมทางด้าน เฟร็ดดี้ มาร์รินโญ่ กุนซือใหญ่ทีมแข้งสาวไทย ได้ประชุมลูกทีมเครียดนานกว่า 1 ชั่วโมง ยังคงเน้นให้ลูกทีม ซักซ้อมจังหวะเข้าไปสังหารประตู ก่อนที่จะทิ้งท้ายด้วยการยิงจุดโทษ

หลังการฝึกซ้อม เฟร็ดดี้ มาร์รินโญ่ กุนซือใหญ่ของทีม กล่าวภายหลังเสร็จสิ้นจากการฝึกซ้อมว่า "เวลานี้ลูกทีมมีขวัญกำลังใจดีเยี่ยม นักเตะเรามีความสมบูรณ์สุดขีด มีเพียงแค่ กาญจานา สังข์เงิน คนเดียวเท่านั้นที่ต้องแยกให้ วิ่งเรียกความฟิต หลังจากที่มีกล้ามเนื้อกระตุก แต่ดูแล้วก่อนถึงวันแข่งขันจริง ไม่น่าจะมีปัญหากับการส่งลงสนาม เหนือสิ่งอื่นใด เกมนี้ตนมั่นใจถึงร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าลูกทีมจะต้องคว้าชัยชนะมาฝากแฟนบอลชาวไทยแน่นอน"

สาวไทยเนื้อหอมเอเอฟซีชมฟอร์ม
ขณะเดียวกัน ในเกมที่แข้งสาวไทย ลงสนามทุกนัดในศึกซีเกมส์ ครั้งนี้ ได้มี มร.ฟูชิตะ ผู้ชำนาญการทางด้านฟุตบอลหญิงของ เอเอฟซี ชาวญี่ปุ่น มาชมฟอร์มสาวไทยทุกนัดอีกด้วย พร้อมกับเปิดเผยว่า "นักฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย หลายรายโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม ในการเล่นรอบแรก

โดยเฉพาะ ตำแหน่งมิดฟิลด์ ทั้ง สุภาภรณ์ แก้วแบน, จันทร์เพ็ญ สีเสริม, วิลัยพร บุตรด้วง, อรทัย ศรีมณี ต่างมีเบสิกทักษะที่ดีเยี่ยม เวลานี้เหลือเพียงแค่สร้างความแข็งแกร่งอีกนิดหน่อย มั่นใจจะสามารถไปเล่นในลีกยุโรปได้สบาย ขณะเดียวกัน ตนจะส่งรายชื่อพร้อมเขียนบรรยายฟอร์มการเล่นส่งไปให้กับสโมสรในลีกของประเทศ เยอรมนี, สหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น ไปพิจารณาอีกด้วย"

ยอดเงินอัดฉีดทะลุ 4 ล้านบาท
ขณะเดียวกัน สามารถ ทรัพย์พจน์ ผช.ผจก.ทีม ที่เดินทางมาดูแลทีม เปิดเผยถึงเงินอัดฉีดหากนักเตะได้เหรียญทอง ซึ่งเวลานี้ทะลุถึง 4 ล้านบาทเข้าไปแล้ว โดยกล่าวว่า เราได้เงินสนับสนุนจากทางภาครัฐวิสาหกิจ ไม่ว่าจะเป็นของ การทางพิเศษแห่งประเทศไทย กับ กระทรวงการคลัง ให้การสนับสนุน ที่ผ่านมายอดเงินอัดฉีดยืนพื้นที่ 3 ล้านบาท ตามที่เป็นข่าวไปแล้วนั้น เวลานี้ยอดเงินที่ตอนแรกจะให้ฟุตบอลชาย เมื่อไม่ประสบความสำเร็จ ได้โยกมาให้ฟุตบอลหญิง ซึ่งคาดว่าเวลานี้จะมีถึง 4 ล้านบาทเข้าไปแล้ว

Advertisement

------------------------------------------------------------------------------------------------------------
------------------------------------------------------------------------------------------------------------

หนึ่งฤทัย ไชยเพชร นักกระโดดสูงสาวไทย โชว์ผลงานกระหึ่ม "เวียงจันทร์เกมส์" ทำสถิติ 1.94 ม. เท่ากับสถิติ เอเชียนเกมส์ ที่ ซาโตะ เมกูมิ จากญี่ปุ่นทำไว้ ที่ปักกิ่ง เมื่อ 19 ปีที่แล้ว คว้าเหรียญทองมาครองแบบสะใจ ขณะที่ทีมไต้ฝุ่นสาวไทย สุดแกร่ง ออกนำม้วนเดียวจบ ซิวทองได้แบบสบาย ส่วนทีมชาย ล้างแค้น "เสือเหลือง" มาเลเซีย คว้าทองมาได้สำเร็จ

การแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 25 "เวียงจันทร์เกมส์" เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. 52 ที่ผ่านมา กรีฑา ชิง 10 ทอง ที่เมนสเตเดี้ยม สนามกีฬาแห่งชาติลาว หลัก 16 วันที่ 2 นักกีฬาไทยยังเก็บเหรียญทองได้อย่างต่อเนื่อง โดย กระโดดสูงหญิง หนึ่งฤทัย ไชยเพชร อดีตเหรียญทองซีเกมส์ ครั้งที่ 22 ที่ เวียดนาม และเหรียญเงินในโคราชเกมส์ ลงแข่งพร้อม วนิดา บุญวรรณ์ รุ่นน้อง สู้กับ บุย ทิ ฮอง แชมป์เก่า และ ดอง ทิ เวียดตา สองสาวจากเวียดนาม

โดยการชิงชัย มาเร้าใจกันช่วงระดับความสูงที่ 1.88 ม. เมื่อ 3 สาวอย่าง หนึ่งฤทัย, วนิดา และ ดอง ทิ เวียดตา สู้กันอย่างสูสี โดย ดอง ทิ เวียดตา กระโดดผ่านได้ก่อน ทำเอาสาวไทยกดดันอย่างหนัก แต่การกระโดดครั้งสุดท้าย ทั้งสองสาวผ่านได้แบบเฉียดฉิวต้องสู้กันต่อที่ความสูง 1.91 ม.ต่อ

อย่างไรก็ตามในขั้นความสูงนี้ ดอง ทิ เวียดตา กระโดดไม่ผ่านทั้ง 3 ครั้ง ทำให้โอกาสเป็นของสาวไทยทันที เพราะหากผ่านจะคว้าเหรียญทองไปครอง ปรากฏว่า วนิดา ทำไม่สำเร็จ จึงเหลือเพียง หนึ่งฤทัย คนเดียว ซึ่งกระโดดไม่ผ่านไปแล้ว 2 ครั้ง แต่การกระโดดครั้งสุดท้าย หนึ่งฤทัย ที่ตั้งสมาธิอย่างเต็มที่ ก่อนวิ่งออกตัวเต็มแรง และพุ่งกระโดดผ่านไปแบบกองเชียร์แทบช็อก เพราะเอวไปเกี่ยวไม้คานจนสั่น แต่โชคดีที่คานยังไม่ตก

ทำให้ หนึ่งฤทัย กระโดดตัวลอยดีใจที่คว้าเหรียญทองได้สำเร็จ ซึ่งสาวไทยยังไม่หยุดที่สถิตินี้ ยังเรียกความสูงต่อที่ 1.94 ม. เท่ากับสถิติเอเชียนเกมส์ และ หนึ่งฤทัย ทำให้กองเชียร์เฮกันทั้งสนาม เมื่อกระโดดผ่านในครั้งที่ 3 ครั้งสุดท้าย คว้าเหรียญทองพร้อมทำลายสถิติซีเกมส์ ที่ บุย ทิ ฮอง จากเวียดนามทำไว้ 1.89 ม. ในซีเกมส์ ครั้งที่ 23 ที่ฟิลิปปินส์ และทำเท่ากับสถิติ เอเชียนเกมส์ 1.94 ม. ที่ ซาโตะ เมกูมิ จากญี่ปุ่นทำไว้ที่ปักกิ่ง เมื่อ 19 ปีที่แล้ว โดย วนิดา บุญวรรณ์ ได้ที่ 2 สถิติ 1.88 ม. และ ดอง ทิ เวียดตา ได้ที่ 3 สถิติ 1.88 ม.เท่ากัน แต่ทำได้ทีหลัง ส่วน บุย ทิ ฮอง แชมป์เก่าได้แค่ที่ 4 สถิติ 1.80 ม.

หนึ่งฤทัยซ้อมดีมั่นใจทองแน่
หลังแข่ง หนึ่งฤทัย เผยว่า ก่อนแข่งมั่นใจว่าจะคว้าเหรียญทองอยู่แล้ว เพราะซ้อมมาดีตลอด และก่อนมาซีเกมส์ไปแข่งอินดอร์เกมส์ ทำได้ 1.93 ม. จึงมั่นใจ แต่ช่วงแข่งเจอความกดดันเริ่มพะวง จนช่วงที่กระโดดผ่านได้ในช่วง 1.88 ม. กลับมามั่นใจอีกครั้ง ตอนนั้นความรู้สึกมันได้ เราสมาธิดี จนถึงความสูง 1.91 ม. กำลังลุ้นเหรียญทองเริ่มตื่นเต้นอีกครั้ง ต้องทำสมาธิอยู่นาน กว่าจะทำได้สำเร็จ

ครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ตั้งใจมาก เพราะก่อนแข่ง คาวิสกี้ โค้ชบอกว่าต้องได้เหรียญทอง หากไม่ได้จะหนีไปสอนประเทศอื่นแล้ว เพราะเขาให้ค่าจ้างดีกว่า ตนจึงพยายามเต็มที่ เพราะอยากให้เขาสอนต่อ เพราะมีเทคนิคดีๆ มาสอนตลอด และดูแลนักกีฬาดีมาก สำหรับเป้าหมายจากนี้คงมุ่งไปที่เอเชียนเกมส์ เพราะฝันว่าอยากได้เหรียญเอเชียนเกมส์สักครั้งจะเป็นเหรียญอะไรก็ได้

ฐิติมาแชมป์ เขย่งฯ ซิวทองสมัย2
เขย่งก้าวกระโดด หญิง ฐิติมา เมืองจันทร์ แชมป์เก่าโคราชเกมส์ ลงป้องกันแชมป์กับ ศิรฎา สีชัยชนะ โดยรายการนี้ไทยแทบแบเบอร์เหรียญทอง เพราะไร้คู่แข่ง ปรากฏว่าไม่มีพลิก ฐิติมา กระโดดครั้งแรกทำลายสถิติซีเกมส์ที่ระยะ 14.08 ม. คว้าเหรียญทองทันที โดยทำลายสถิติซีเกมส์ที่ตัวเองทำไว้ 13.85 ม. ส่วนเหรียญเงิน ศิรฎา สีชัยชนะ สถิติ 13.48 ม. และทองแดง มาเรีย นาตาเลีย จากอินโดฯ 13.31 ม.

หลังแข่ง ฐิติมา เผยว่าก่อนแข่งไม่กดดันเลย เพราะรู้ว่าไม่มีคู่แข่งนักกีฬาไทยแข่งกันเอง แต่ไม่มั่นใจเต็มร้อยว่าจะได้เหรียญทอง เพราะก่อนแข่งรู้สึกตึงๆ ที่ต้นขาซ้าย คิดแต่ว่าจะทำให้ดีที่สุด ไม่คิดเหมือนกันว่าจะกระโดดทีเดียวคว้าเหรียญทองเลย แถมยังทำลายสถิติซีเกมส์ของตัวเองด้วย สำหรับอนาคตอยากทำสถิติผ่านไปแข่งโอลิมปิกให้ได้สักครั้ง

4x400 ม.หญิงขาดซิวทองสบาย
วิ่งผลัด 4x400 ม.หญิง ไทย แชมป์เก่า มี 4 สาวอย่าง ไม้แรก เสาวลี แก้วช่วย อาจารย์สาวจาก ม.มหิดล, ไม้ 2 ตรีวดี ยงค์พันธ์ ไม้ 3 กะรัต ศรีเมือง และไม้ 4 ร.ต.หญิง อมรรัตน์ วินาโท ลงล่าเหรียญทอง ปรากฏว่า สาวไทยแกร่งกว่าคู่แข่งแบบเห็นได้ชัด โดย เสาวลี ที่ลงวิ่งไม้แรก หลังสตาร์ตวิ่งอัดนำโด่งจนไม้ 2 ตรีวดี วิ่งสบาย จากนั้นนำโด่งคนเดียวเข้าเส้นชัย ไปแบบไม่มีลุ้น คว้าเหรียญทองไปครองอีกสมัย ทำเวลาได้ 3.38.51 น. ที่ 2 พม่า 3.43.29 น. และที่ 3 เวียดนาม 3.49.28 น.

หลังแข่ง เสาวลี แก้วช่วย และเพื่อนร่วมทีมให้สัมภาษณ์ว่าเพื่อนๆ วิ่งได้ดีกันทุกคน สำหรับสถิติแม้จะสู้เมื่อครั้งได้แชมป์ที่โคราชไม่ได้ แต่เราพอใจ คงเป็นเพราะครั้งนี้เราไม่มีคู่แข่ง ไม่มีคนลาก แต่ละคนเลยวิ่งสบายๆ แต่ถือว่าโอเคที่เราทำเหรียญทองได้สำเร็จ

ทีมชายสะใจล้างแค้นคว้าแชมป์
วิ่งผลัด 4x400 ม.ชาย ไทยต้องสู้กับ มาเลเซียแชมป์เก่า โดยไทยวางตัวให้ไม้ 1 เป็น จักรทิพย์ โพธิ์เจริญ, ไม้ 2 ชนาธิป รักษ์บุรี, ไม้ 3 ศุภชัย เพชรสาย และไม้ 4 ศุภชัย ฉิมดี โดยออกสตาร์ตไม้แรก ลุ้นกันสนุกนักกีฬาวิ่งไล่อัดกันสุดมัน ก่อนที่ไม้ 2 ชนาธิป จะเริ่มสปีดหนี จนไม้ 3 ศุภชัย ทิ้งห่างคู่แข่ง ส่งไม้ให้ ศุภชัย วิ่งสบายๆ โดยมี มาเลเซีย วิ่งตามมาห่างๆ ราว 5 เมตร แม้หนุ่มเสือเหลืองจะพยายามวิ่งไล่อัดขึ้นมา แต่ ศุภชัย เด็กหนุ่มจากสุราษฎร์ฯ เร่งสปีดหนีไปอีกจนเข้าเส้นชัยเป็นคนแรกโดยทำเวลาได้ 3.08.40 น. ที่ 2 มาเลเซีย 3.10.19 น. ที่ 3 ลาว 3.26.46 น.

จักรทิพย์ เผยว่า ครั้งนี้สะใจมากๆ ที่ล้มแชมป์มาเลเซีย ล้างแค้นที่เขาเอาชนะเราในบ้านได้ ดีใจมากๆ ที่สำคัญนักกีฬาชุดนี้เป็นเด็กใหม่หลายคน ทำได้ขนาดนี้ถือว่าโอเคแล้ว ส่วนเวลาแม้จะไม่สามารถทำลายสถิติได้ แต่อยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ เพราะตอนซ้อมเราก็ทำเวลาได้ประมาณนี้อยู่แล้ว

ขณะที่ ศุภชัย ฉิมดี ที่อกหักได้แค่เหรียญเงินในซีเกมส์ ที่ จ.นครราชสีมา กล่าวว่าดีใจ และสะใจ ที่เอาชนะมาเลเซียคู่แข่งสำคัญได้ เหรียญทองนี้ขอมอบให้คนไทยทุกคน และอยากให้แฟนกีฬาชาวไทยช่วยเชียร์ทีมกรีฑาด้วย สำหรับตนจากนี้จะลงวิ่ง 200 ม.อีกรายการ เราแข่งกันเองมี "พี่โจ๊ก" สิทธิชัย สุวรประทีป เป็นคู่แข่งที่จะแย่งเหรียญทอง รายการนี้ใครได้เหรียญก็โอเค เพราะเหรียญอยู่กับประเทศไทย

สำหรับผลรายการอื่นๆ มีดังนี้ วิ่งวิบาก 3ꯠ ม. 1 เรเน่ เฮอร์เรร่า (ฟิลิปปินส์) 9.11.20 น., 2 ปฏิการ เพชรศรีชา (ไทย) 9.27.21 น., 3 เหงียน วาน ลี (เวียดนาม) 9.38.80 น., วิ่ง 800 ม. ชาย 1 เหงียน ดินห์ ช็อก (เวียดนาม) 1.50.65 น., 2 โมฮัมหมัด จิโรนี่ รีดูอัน (มาเลเซีย) 1.50.98 น., 3 มาตริอาลากาน (มาเลเซีย) 1.51.75 น. ส่วนนักกีฬาไทย จักรกฤษณ์ ปัดถาสาย ได้ที่ 4 สถิติ 1.51.82 น. และ วัชรินทร์ แวกาจิ ได้ที่ 5 เวลา 1.52.22 น.,

วิ่ง 800 ม. หญิง 1 เตรือง ทันห์ ฮอง (เวียดนาม) 2.02.74 น., 2 คานที มานตี (มาเลเซีย) 2.07.99 น., 3 โอ ทริ เทา (เวียดนาม) 2.12.26 น., วิ่ง 5ꯠ ม. หญิง 1 ตรียานนีสีห์ (อินโดฯ) 15.56.79 น., 2 เนียง เนียง วิน (พม่า) 16.38.02 น., 3 ฟีเทลเวโร่ (ฟิลิปปินส์) 17.12.09 น.

ขว้างจักร หญิง 1 ดวี รัตนาวาตี (อินโดฯ) 50.63 ม., 2 ศิวาพร วาระเพียง (ไทย) 49.85 ม., 3 จุฑาภรณ์ กระแสร์ญาณ (ไทย) 49.12 ม., ทศกรีฑา 1 วู วาน ยวน (เวียดนาม) 7긎 คะแนน, 2 บุญเกตุ ชาล่อน (ไทย) 6꽴 คะแนน, 3 เหงียน วาน ฮุย (เวียดนาม) 6궨 คะแนน ส่วน อำนาจ ขุนประดิษฐ์ ของไทยได้ที่ 5 ได้ 5꼍 คะแนน

Advertisement

------------------------------------------------------------------------------------------------------------
------------------------------------------------------------------------------------------------------------

นักตบลูกหวายไทย โชว์ฟอร์มไร้เทียมทาน "โจ้ หลังเท้า" สืบศักดิ์ ผันสืบ นำทัพทีมชายต้อน เวียดนาม สบาย 2 เซตรวด เก็บชัย 2 นัดรวด เข้าไปรองชิงดำกับเจ้าภาพลาว แน่นอนแล้ว ขณะที่ทีมสาว ตบส่งท้ายรอบแรก อัดเจ้าภาพกระจุย 2-0 เซต โดยจะเข้าไปชิงดำกับ "สาวญวน" เวียดนาม คู่ปรับเก่าอีกครั้ง

การแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 25 "เวียงจันทร์เกมส์" เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. 52 ที่ผ่านมา เซปักตะกร้อ ประเภททีมเดี่ยว ที่สนามลาว-ไอเทค รอบแรก ทีมชาย แข่งแบบพบกันหมด นำทีมอันดับ 1 กับ 2 เข้าไปชิงชนะเลิศไทย ลงเกมนัดที่สามพบกับ เวียดนาม

โดยไทยแข่ง 2 นัด ชนะ มาเลเซีย 2-0 เซต, ชนะ ฟิลิปปินส์ 2-0 เซต ส่วนเวียดนาม นัดแรก แพ้ลาว 0-2, แพ้ มาเลเซีย 0-2 เกมนี้ไทยชนะจะการันตีเข้ารอบทันที โดยไทยส่ง "โจ้ หลังเท้า" ร.ต.ท.สืบศักดิ์ ผันสืบ นำทัพพร้อมด้วย ภัทรพงษ์ ยุพดี กับ ศุภชัย มณีนาถ และอาศัยฟอร์มที่เหนือกว่าเอาชนะไปสบายๆ 2-0 เซต 21-13, 21-8 ไทยยังเหลือเกมส่งท้ายอีกนัดกับ ลาว ที่ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศแน่แล้ว หลังจากยังไม่แพ้ใครเช่นกัน ซึ่งนัดรองสุดท้ายชนะ ฟิลิปปินส์ 2-0 เซต 21-12, 21-18

ด้านทีมเดี่ยวหญิง รอบรองชนะเลิศ ทีมสาวไทย แชมป์เก่า หลังจากช่วงเช้าชนะ เมียนมาร์ 2 เซตรวด ส่งท้ายรอบแรก ลงสนามพบกับ ลาว ตามเชิงแล้ว ไทยเป็นต่อ เกมนี้ผู้เล่นไทยประกอบด้วย นิตินัดดา แก้วคำไสย์, ธิดาวรรณ ดาวสกุล, อารีรัตน์ ตาขัน

เกมแข่งขันเป็นไปตามคาดสาวไทยเอาชนะไปไม่ยาก 2-0 เซต 21-10, 21-6 ผ่านเข้าไปฉะคู่ปรับเก่า เวียดนาม อีกคำรบที่รอบรองชนะเลิศเอาชนะ อินโดนีเซีย 2-0 เซต 21-11, 21-17 และนับเป็นการพบกันครั้งที่ 5 ในซีเกมส์ สำหรับทีมเดี่ยวหญิง ไทยนั้นเอาชนะมาได้ตลอด

Advertisement

------------------------------------------------------------------------------------------------------------
------------------------------------------------------------------------------------------------------------

มลธิรา วัฒนภักดี และ ศักดิธัช ศักดาราช เก็บ 2 เหรียญทองให้ทีมมวยไทย ในกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 25 ขณะที่ กรรณิการ์ นวลบริบูรณ์ และ อนุชิต สถิตย์ เสียทีคู่แข่งได้แค่เหรียญเงิน

มวยไทย ประจำการแข่งขัน "เวียงจันทน์เกมส์" เมื่อช่วงเย็นวันจันทร์ที่ 14 ธันวาคม 2552 ดำเนินมาถึงการชิงเหรียญทอง โดยไทยได้ลุ้นทั้งสิ้น 4 รุ่น ปรากฏว่าสมหวังและผิดหวังคละเคล้ากันไป

โดย รุ่น 45 กก.หญิง มลธิรา วัฒนภักดี ไล่เบียดไล่อัดกับ บุญจัน แสงประเสริฐ อย่างสูสี ก่อนเบียดเอาชนะนักชกเจ้าภาพลาว ไปได้อย่างสนุก 3-2 หมัด เบิกทองแรกสำเร็จ ภายหลังการแข่งขัน มลธิรา ให้สัมภาษณ์ผ่านทีมข่าว MGR Sport ที่ไปเกาะขอบเวทีถึงบึงขะหยอง "ก่อนขึ้นชกรู้สึกดดันมาก แต่ก็ทำสำเร็จจนได้ เหรียญทองนี้ขอมอบให้กองเชียร์ชาวไทย รวมถึงคุณแม่ และโค้ชอิทธิพล ช่วงมณี ที่ทำให้ฉันมีวันนี้"

ด้าน โค้ชอิทธิพล เผยบ้าง "การชกกับเจ้าภาพถือว่ากดดันทุกเรื่องโดยเฉพาะเสียงเชียร์ นอกจากนี้เรายังเสียเปรียบรูปร่างด้วย ถ้าเน้นคลุกวงในก็คงแพ้แน่นอน ผมจึงเปลี่ยนแผนให้ มลธิรา มาเก็บคะแนนในจังหวะฉาบฉวย ดักเตะแล้วถอยออกมาซึ่งก็ได้ผล" โดยในพิธีมอบเหรียญทอง นายสมสะหวาด เล่งสะหวัด รองนายกลาว และ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกไทย ให้เกียรติมอบเหรียญด้วย

ส่วน ศักดิธัช ศักดาราช ในรุ่น 67 กก. ชาย ก็ไล่ถลุงเอาชนะ อาร์เอสซี เอาท์คลาส บุย เหียน ยาง (เวียดนาม) ยกที่ 3 ซิวอีกหนึ่งเหรียญทอง ภายหลัง ศักดิธัช ให้สัมภาษณ์ "มั่นใจว่าจะชนะตั้งแต่จบยกแรก ก่อนหน้านี้ได้ดู อนุชิต สถิตย์ พ่ายแพ้ ดังนั้นผมจึงคิดว่าถ้ามีจังหวะต้องลุยใส่เลยและก็ได้ผล ก็ต้องขอบคุณกองเชียร์ที่ตามมาให้กำลังใจกัน ซึ่งผมก็บอกเพื่อนอีก 4 คนที่จะลงชิงเหรียญทองในวันพรุ่งนี้ว่าอย่าไปสนใจเสียงเชียร์ของเจ้าภาพ ให้มีสมาธิกับการแข่งขัน ลุยให้เต็มที่ ถ้าจังหวะดีก็น่าจะได้ครบทั้ง 4 เหรียญทอง

สำหรับ กรรณิการ์ นวลบริบูรณ์ ในรุ่น 51 กก.หญิง โชคไม่ดีมีปัญหาประจำเดือนมาพอดี จึงพ่ายให้แก่ เหงียน ธิ เธียต ไม (เวียดนาม) 1-4 หมัด ได้เพียงแค่เหรียญเงิน เช่นเดียวกับ รุ่น 54 กก.ชาย อนุชิต สถิตย์ ปราชัย นุคิน ลัดสะเผ่า ของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว หวุดหวิด 2-3 หมัด

Advertisement

------------------------------------------------------------------------------------------------------------
------------------------------------------------------------------------------------------------------------

สั่งพักงาน สตีฟ ดาร์บี้ ไม่ให้ยุ่งเกี่ยวทีมชาติ เป็นการชั่วคราว "บังยี" วรวีร์ มะกูดี บอกจะไม่ทำอะไรที่ฝืนกระแสแน่ พร้อมเตรียมพิจารณาแต่งตั้งสตาฟฟ์ชุดใหม่เข้ามาเป็นผู้ช่วย ไบรอัน ร็อบสัน ลือสะพัด "โค้ชหรั่ง" ชาญวิทย์ ผลชีวิน จะเป็นตัวเลือกแรก แต่อดีตกุนซือทีมชาติไทยอาจปฏิเสธ เพราะติดเดินทางไปร่วมงานรับปริญญาลูกสาวที่อเมริกา โดยสั่งเน้นเตรียมทีมเอเชียน คัพ เต็มที่ เพื่ออัด จอร์แดน ลุ้นเข้ารอบสุดท้ายให้ได้

จากความล้มเหลวของแข้งนักเตะทีมชาติไทย ในการแข่งขันฟุตบอลซีเกมส์ ครั้งที่ 25 ด้วยการร่วงตกรอบแรกอย่างไม่คาดฝัน ด้วยการแพ้ต่อมาเลเซีย 1-2 ส่งผลให้มีการกดดันสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ให้ทำการปลด สตีฟ ดาร์บี้ กุนซือใหญ่ของทีมออก หลังจากก่อนนี้บรรดาสตาฟฟ์โค้ช ไม่ว่า เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง หรือ นิพนธ์ มาลานนท์ ได้แสดงสปิริตโบกมือลาออกไปแล้ว

โดยผู้สื่อข่าวพยายามติดต่อผู้บริหารของสมาคมฟุตบอลฯ เพื่อทราบความคืบหน้า ซึ่งตลอดทั้งวันปรากฏว่า บรรดาคีย์แมน ผู้บริหารระดับสูงประมาณ 5-6 ท่านยังอยู่ในภาวะเครียดจัดที่ทีมชาติไทย ต้องมาตกรอบซีเกมส์หนนี้ จนไม่อยากให้สัมภาษณ์กับสื่อแต่อย่างใด กระนั้นทาง "บังยี" วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฯ ก็แย้มว่า สมาคมฟุตบอลฯ จะไม่ทำอะไรที่สวนกระแส กับความรู้สึกของแฟนบอล และสื่อมวลชนแน่นอน แต่ทุกอย่างจะทำด้วยความนุ่มนวล และมีเหตุมีผลมากที่สุด

ขณะที่ผู้บริหารคนหนึ่งเผยว่า การเปลี่ยนแปลงในทีมชาติไทย ยังไงต้องมีแน่นอน โดยเวลานี้มี มติที่จะพักงาน สตีฟ ดาร์บี้ ไม่ให้เข้ามายุ่งเกี่ยวกับการทำทีมไว้ก่อน และจะมีการประชุม เพื่อแต่งตั้งสตาฟฟ์โค้ชชุดใหม่ เข้ามาช่วย ไบรอัน ร็อบสัน ให้เร็วที่สุด ทั้งนี้สตาฟฟ์ชุดใหม่จะเป็นคนไทย

นอกจากนี้ผู้บริหารคนเดิมยังกล่าวว่า การเตรียมทีมชาติไทยชุดใหญ่ ที่จะเล่นเอเชียน คัพ รอบคัดเลือก นัดต่อไปกับจอร์แดน วันที่ 6 ม.ค.นี้ จะสั่งให้ฟิตซ้อมอย่างเต็มที่ เพื่อให้มีความพร้อมมากที่สุด เพราะถือเป็นแมตช์สำคัญ ที่จะต้องเอาชนะให้ได้เพื่อการลุ้นเข้ารอบสุดท้าย ซึ่งถ้าทีมชาติไทยมีผลงานล้มเหลวอีก จะทำให้ศรัทธาของฟุตบอลไทยตกต่ำ ผู้บริหารสมาคมฟุตบอลฯ จึงต้องการเน้นรายการนี้และต้องเข้ารอบสุดท้ายให้ได้สถานเดียว

ขณะเดียวกัน ในส่วนของการแต่งตั้งสตาฟฟ์โค้ช ที่จะเข้ามาเป็นผู้ช่วย ไบรอัน ร็อบสัน ชุดใหม่นั้น มีการลือสะพัดว่า โผจะออกไปที่ "โค้ชหรั่ง" ชาญวิทย์ ผลชีวิน ที่จะได้รีเทิร์นอีกครั้ง หลังจากที่ลาออกไป หลังจบศึกคัดบอลโลก ที่ผ่านมา

ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยัง "โค้ชหรั่ง" ถึงข่าวลือที่เกิดขึ้น อดีตกุนซือทีมชาติ เผยว่า ตนยังไม่ได้รับการติดต่อมาจากสมาคมฟุตบอลฯ แต่อย่างใด กระนั้นคงเป็นไปได้ยาก เพราะได้วางโปรแกรม ที่จะเดินทางไปอเมริกา เพื่อร่วมงานรับปริญญาลูกสาวเรียบร้อยแล้ว เป็นโปรแกรมที่วางไว้ล่วงหน้า ถือเป็นงานใหญ่ของครอบครัว มีการจองตั๋ว ลาพักร้อน ไว้นานแล้วด้วย จึงไม่มีเวลาที่จะไปช่วยแน่นอน ทั้งนี้จะเดินทางไปวันที่ 16 ธ.ค. นี้ และจะกลับก็คงหลังคริสต์มาสเลย

Advertisement

------------------------------------------------------------------------------------------------------------
------------------------------------------------------------------------------------------------------------

"เอ็กซ์" จักรกฤษณ์ พณิชย์ผาติกรรม เปิดเผยหลังเดินทางกลับถึงประเทศไทยว่าตนถูกรังแกจากการโดนผู้จัดการทีมหั่นชื่อจากทัพแม่นปืนไทยลุยซีเกมส์ แต่ขออุบเงียบก่อนรอให้จบซีเกมส์จะออกมาชี้แจงรายละเอียดอีกครั้ง ขณะที่รุ่นพี่ พ.ต.ท.วิรัตน์ การดี ออกมาแฉสมาคมได้มีการเตรียมนักกีฬาสำรองแทนเอ็กซ์ไว้ก่อนแล้ว ตั้งแต่ก่อนลุยซีเกม

เมื่อเวลา 23.30 น.วันที่ 13 ธันวาคม ที่สนามบินสุวรรณภูมิ จักรกฤษณ์ พณิชย์ผาติกรรม นักแม่นปืนทีมชาติไทย เดินทางจากประเทศลาวกลับมาถึงประเทศไทยด้วยเที่ยวบิน TG 575 หลังมีปัญหากับ พ.ต.อ.บูรพา ฤกษ์สังเกตุ ผู้จัดการทีมยิงปืนไทยจนถูกหั่นชื่อจากชุดสู้ศึกซีเกมส์ ครั้งที่ 25 พร้อมถูกยึดไอดีการ์ดจนถูกส่งตัวกลับมา

โดยหลังลงจากเครื่อง "เอ็กซ์" ออกมาย้ำอีกครั้งว่าเรื่องนี้ตนเป็นฝ่ายถูกรังแก แต่ยังไม่ขอให้สัมภาษณ์มากไปกว่านี้ เนื่องจากจะกระทบต่อนักกีฬาคนอื่นที่กำลังแข่งอยู่ แต่หลังจบซีเกมส์จะมีการพูดเปิดใจอีกครั้ง พร้อมยืนยันได้รับการช่วยเหลืออย่างดีจากเจ้าหน้าที่ประเทศลาว

ขณะที่ วิรัตน์ การดี นักแม่นปืนรุ่นพี่ที่มารับ จักรกฤษณ์ ที่สนามบินสุวรรณภูมิ กล่าวแสดงความเห็นต่อเรื่องนี้ว่า "เอ็กซ์ ไม่สมควรถูกส่งตัวกลับมาถึงขนาดนี้เพราะเป็นเพียงแค่การทะเลาะกันของคนสองคน แล้วผู้จัดการทีมไปกล่าวหาว่าเอ็กซ์ มีการทำผิดระเบียบวินัย ผมว่าเรื่องนี้มีพิรุธ เพราะก่อนหน้าจะเดินทางไปแข่งขันได้ข่าวว่ามีการเตรียมนักกีฬาสำรองไว้ก่อนแล้ว และได้เน้นย้ำให้เตรียมตัวให้ดีเป็นพิเศษอีกด้วย"

"จักรกฤษณ์ เป็นนักยิงปืนที่มีฝีมือ ขอพูดตามตรงว่าต่อให้อีก 10 ปีก็ไม่สามารถหาใครมาเทียบฝีมือได้ เขามีความเก่งทั้งระยะ 10 25 และ 50 เมตร โดยปกตินักยิงปืนจะถนัดในบางระยะ เขาเป็นนักกีฬาที่หาได้ยาก อย่างไรก็ตามผมขอตำหนิผู้ที่คุมนักกีฬาเพราะควรรู้จักธรรมชาติของนักกีฬาเก่งที่มักจะมีอีโก้สูง ผู้จัดการทีมก็ควรหาทางคุมให้ดี"

Advertisement

------------------------------------------------------------------------------------------------------------
------------------------------------------------------------------------------------------------------------

จอมพลังยกเหล็กไทย โชว์ฟอร์มกระหึ่ม "เวียงจันทร์เกมส์" รุ่น 85 กก.ชาย "เจ้าแม็ก" พิทยา ตีบนอก ทุบสถิติท่าสแนตช์ คว้าทองมาครอง เป็นสมัยที่ 2 ติดต่อกันสำเร็จ ขณะที่ "เจ้าแจ๊ค" สุธิพร วัฒนากสิกรรม บู๊รุ่น 94 กก.ชาย พังสถิติทั้งสองท่า ซิวเหรียญทองซีเกมส์ สมัยที่ 3 ติด ด้าน "เจ้าตั้ม" ขวัญชัย นุชพุ่ม ยังไม่พลาด คว้าทองปิดท้ายให้ทัพไทยสำเร็จ ส่วน "น้องแอน" แอนนิภา มูลธาร์พ่าย เมียนมาร์ ชวดทองน่าเสียดาย

การแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 25 "เวียงจันทร์เกมส์" ที่ประเทศลาว เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. 52 ที่ผ่านมา ยกน้ำหนักชิง 4 ทอง ที่ ร.ร.พอนสะหวัน ยิมเนเซียม เป็นการแข่งขันในวันสุดท้าย ไทยส่งชิงทองครบทั้ง 4 รุ่น ประกอบด้วยรุ่น 85 กก.ชาย พิทยา ตีบนอก, รุ่นเกิน 69 กก.หญิง แอนนิภา มูลธาร์, รุ่น 94 กก.ชาย สุธิพร วัฒนากสิกรรม, รุ่นเกิน 94 กก.ขวัญชัย นุชพุ่ม โดย ผลงานนักยกเหล็กไทยที่ผ่านมาสามารถคว้ามาได้แล้ว 1 ทอง จาก เปรมศิริ บุญพิทักษ์, 3 เหรียญเงิน จากไพศาล หรรษาวงศ์, พิมศิริ ศิริแก้ว และพงษ์ศักดิ์ มณีทอง

รุ่น 85 กก.ชาย ไทยส่ง "เจ้าแม็ก" พิทยา ตีบนอก เจ้าของเหรียญทองในซีเกมส์ครั้งที่ 24 ที่ จ.นครราชสีมา ลงชิงชัย โดยในรุ่นนี้มีคู่แข่งจากเมียนมาร์ ชวี ลิน ฮวต เป็นคู่ต่อกรที่สำคัญ เริ่มท่าสแนตช์ "เจ้าแม็ก" ทำได้ดีในครั้งแรก เรียกเหล็กที่ 140 กก. และยกผ่านไปได้สำเร็จ

ครั้งที่ 2 จอมพลังหนุ่มไทยเรียกน้ำหนักที่ 145 กก.ยกผ่านเช่นกัน ครั้งที่ 3 ไทยเรียกเหล็กที่ 150 กก. ถ้ายกผ่านจะเป็นการทำลายสถิติซีเกมส์ในท่านี้ โดย ซานดาว เวลเดมาร์ ซาซุตลอน จากอินโดฯ ทำไว้ที่ 146 กก. ในซีเกมส์ครั้งที่ 23 ที่บาโคล็อต ฟิลิปปินส์ และไม่พลาด "เจ้าแม็ก" ยกผ่าน

ขณะที่คู่ต่อสู้จากเมียนมาร์ ชวี ลิน ฮวต ยกครั้งแรกที่ 140 กก. ยกผ่าน ครั้งที่ 2 เพิ่มน้ำหนักไปที่ 145 กก.และครั้งที่ 3 เรียกเท่านักกีฬาไทย 150 กก.ยกผ่านฉลุยพร้อมกับทำลายสถิติซีเกมส์ในท่านี้เช่นเดียวกับ พิทยา และจบท่าสแนตช์ นักจากเมียนมาร์ นำมาเป็นที่ 1 ด้วยสถิติ 150 กก.,ที่ 2 พิทยา ตีบนอกของไทน สถิติ 150 กก.เช่นกัน แต่นักกีฬาไทยมีน้ำหนักเยอะกว่าเลยมาเป็นที่ 2, ที่ 3 วานห์ ตาน จากเวียดนาม 141 กก.

ส่วนท่าคลีนแอนด์เจิร์ก พิทยา เรียกเหล็กครั้งแรก 175กก.ยกผ่านได้ ส่วนคู่ชิงจากเมียนมาร์เรียกเหล็กเพียง 170 กก. ยกผ่านเช่นเดียวกัน และยกต่อครั้งที่ 2 เนื่องจากเรียกเหล็ก 175 กก.ยกผ่าน ส่วน "เจ้าแม็ก" ยกครั้งที่ 2 ที่ น.น. 181 กก. และไม่พลาด ส่วนเมียนมาร์ ขึ้นมายกเป็นครั้งที่ 3 ที่น.น.181 กก.ยกผ่าน ด้วยสถิตินี้ ส่วนหนุ่มไทย เหลือการยกครั้งสุดท้าย ที่เพิ่มน้ำหนักอีก 1 กก.ที่น้ำหนัก 182 กก. และสามารถยกผ่านได้สำเร็จ คว้าเหรียญทองให้ทัพนักยกเหล็กไทยได้สำเร็จ

โดย พิทยา ตีบนอก คว้าเหรียญทองไปครองเป็นซีเกมส์สมัยที่ 2 ติดต่อกัน ด้วยสถิติ ท่าสแนตช์ 150 กก. (ดีกว่าสถิติเดิมที่ ซานดาว เวลเดมาร์ ซาซุตลอน จากอินโดนีเซีย ทำไว้ในครั้งที่ 23 ที่ฟิลิปปินส์) ท่าคลีนแอนด์เจิร์ก 182 กก. น้ำหนักรวม 332 กก., เงิน ชวี ลิน ฮวต (เมียนมาร์) สถิติท่าสแนตช์ 150 กก.ท่าคลีนแอนด์เจิร์ก 181 กก.น้ำหนักรวม 331 กก., ทองแดง วานห์ ตาน (เวียดนาม) ท่าสแนตช์ 141 กก.ท่าคลีนแอนด์เจิร์ก 165 กก.น้ำหนักรวม 306 กก.

พิทยาสุดปลื้มคว้าทองสมัยสอง เสียดายน่าทำสถิติดีกว่านี้
หลังคว้าเหรียญทองได้สำเร็จ "เจ้าแม็ก" พิทยา ตีบนอก กล่าวว่าดีใจมากที่สามารถคว้าเหรียญทองไปครองเป็นสมัยที่ 2 ของตัวเอง วันนี้ต้องยอมรับว่าคู่ต่อสู้จากเมียนมาร์สูสีกันมาก โดยเฉพาะท่าคลีนแอนด์เจิร์ก นั้น ตอนแรกตั้งใจยกเหล็กครั้งแรก 180 กก.แต่กลัวพลาด เลยขอลดน้ำหนักลงมาเพื่อเอาเหรียญทองไว้ให้ชัวร์ก่อนดีกว่า เพราะว่าพอจบท่าสแนตช์ยกได้ 150 กก.เท่ากัน แต่ตัวเองยังมั่นใจว่าน่าจะยกได้มากกว่านี้

เมื่อจบการแข่งขันยอมรับว่า สถิติที่ทำได้ไม่ค่อยน่าพอใจ เนื่องจากก่อนหน้านี้ในการแข่งขันชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ที่ จ.ศรีสะเกษ เคยยกได้ท่าสแนตช์ 147 กก.คลีนแอนด์เจิร์ก 187 กก.และ เยาวชนโลก ที่โรมาเนีย ที่ได้ที่ 5 ก็ยกได้ ท่าสแนตช์ 151 กก.คลีนแอนด์เจิร์ก 191 กก. แต่ซีเกมส์เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ผมยกได้ ท่าสแนตช์ 143 กก.คลีนแอนด์เจิร์ก 173 กก.

อนาคตอยากเป็นแชมป์โลกครอบครัวจากสุรินทร์เชียร์ถึงสนาม
หลังจบซีเกมส์ครั้งนี้ ต้องบอกว่าตัวเองมีความมั่นใจมากขึ้น ในการจะทำผลงานให้ดีให้ดีขึ้นถ้าเป็นไปได้ ตั้งเป้าอยากเป็นแชมป์โลก ซึ่งเป็นเรื่องที่ท้าทายพอสมควร แต่ก็ต้องทำให้ได้ ขอบคุณทุกคนที่ส่งแรงใจเชียร์มาให้ตลอด นอกจากนี้ในการแข่งขันในวันนี้ครอบครัวของ "น้องแม็ก" เดินทางจาก จ.สุรินทร์ มาร่วมเป็นกำลังใจในความสำเร็จครั้งนี้ด้วย

แอนนิภา พ่ายเมียนมาร์ชวดทองน่าเสียดาย
รุ่นเกิน 69 กก.หญิง ไทยส่ง "น้องแอน" แอนนิภา มูลธาร์ ดีกรีเหรียญทองแดงเอเชียนเกมส์ ที่โดฮาร์ ประเทศกาตาร์ ในรุ่นเกิน 75 กก.โดยในรุ่นนี้เพิ่งแข่งในซีเกมส์เป็นครั้งแรก มีนักกีฬาจาก 6 ชาติร่วมแข่ง รุ่นนี้ "น้องแอน" ต้องขับเคี่ยวกับ ซาย ซาย ลาตร์ จากเมียนมาร์

เริ่มต้นท่าสแนตช์ สาวไทยเรียกเหล็ก 108 กก.ยกผ่านเช่นเดียวกับครั้งที่ 2 112 กก. ด้านสาวเมียนมาร์เรียกครั้งแรก 109 กก.ยกผ่านแบบสบาย ครั้งที่ 2 เรียกน้ำหนัก 113 กก.ยกผ่านเช่นเดียวกับครั้งที่ 3 118 กก.ส่วน "น้องแอน" มาปิดท้ายของท่านี้ที่น.น. 117 กก.ยกผ่านได้เช่นกัน ส่งให้จบท่าสแนตช์ สาวไทยอยู่ที่ 2 ส่วนที่ 1 เป็นของ ซาย ซาย ลาตร์ จากเมียนมาร์ และที่ 3 โนวี่ ยันติ (อินโดนีเซีย) สถิติ 97 กก.

ท่าคลีนแอนด์เจิร์ก "น้องแอน" ยกเหล็กครั้งแรกผ่านในน้ำหนัก 136 กก.เท่ากับสาวเมียนมาร์ แต่ในครั้งที่ 2 สาวไทยเรียกเหล็ก 140 กก.ยกผ่าน แต่สาวเมียนมาร์เรียกเหล็ก 141 กก.ยกไม่ผ่าน มาแก้ตัวยกผ่านในครั้งที่ 3 143 กก.ทำให้ในครั้งสุดท้ายจอมพลังสาวไทยต้องเพิ่มน้ำหนักเป็น 145 กก. แต่กลับยกไม่ผ่าน

ทำให้ แอนนิภา ครองเหรียญเงิน ด้วยสถิติ ท่าสแนตช์ 117 กก.ท่าคลีนแอนด์เจิร์ก 140 กก.น้ำหนักรวม 257 กก. และ เหรียญทองเป็นของ ซาย ซาย ลาตร์ จากเมียนมาร์ ด้วยสถิติ สถิติในท่าสแนตช์ 118 กก.ท่าคลีนแอนด์เจิร์ก 143 กก.น้ำหนักรวม 261 กก. ส่วน ทองแดง โนวี่ ยันติ (อินโดนีเซีย) ท่าสแนตช์ 97 กก., ท่าคลีนแอนด์เจิร์ก 110 กก.น้ำหนักรวม 207 กก.

น้องแอนหลั่งน้ำตาคว้าเหรียญเงิน
"น้องแอน" แอนนิภา มูลธาร์ กล่าวด้วยน้ำตาคลอเบ้าว่า ดีใจมากถึงแม้จะเป็นเหรียญเงิน ตนขอยกเหรียญนี้ให้คุณพ่อ ก่อนมาไม่ได้ตั้งเป้าว่าจะได้เหรียญ ขอทำสถิติให้ดีที่สุด แต่กลับได้มาถึงเหรียญเงิน ก็ภูมิใจมาก ขณะเดียวกันตนมีอาการบาดเจ็บที่หลังด้วย

อย่างไรก็ตามสถิติที่ทำได้ครั้งนี้ ดีกว่าสถิติเดิมที่เคยทำได้ตอนฝึกซ้อม ที่ยกได้ ท่าสแนตช์ 111 กก.ท่าคลีนแอนด์เจิร์ก 35 กก.เท่านั้นเอง ถือว่าเป็นสถิติที่ยอดเยี่ยมของตัวเอง ต้องขอบคุณสมาคมยกน้ำหนักฯ, ผู้ใหญ่ในสมาคมฯ, โค้ชสายพิณ เดชแสง รวมทั้งพ่อที่เป็นกำลังใจมาให้ตลอด สำหรับ แอนนิภา มูลธาร์ เพิ่งแข่งขันซีเกมส์ ครั้งนี้เป็นครั้งแรก โดยในซีเกมส์ ครั้งที่ 24 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ ที่ จ.นครราชสีมา ไม่ได้มีชื่อแข่งขัน เนื่องจากนักกีฬามีน้อยทำให้รุ่นที่ลงแข่งโดนตัดออก

สุธิพร กระหึ่มเวียงจันทน์ทุบสถิติ 2 ท่า
รุ่น 94 กก.ชาย "เจ้าแจ๊ค" สุธิพร วัฒนากสิกรรม ดีกรีเหรียญทองซีเกมส์ 2 สมัย ที่ฟิลิปินส์ ครั้งที่ 23 และที่ จ.นครราชสีมา ประเทศไทย ครั้งที่ 24 ในรุ่นนี้ถือว่านักกีฬาไทยเต็งจ๋าที่จะคว้าเหรียญทอง รุ่นนี้มีนักกีฬาจาก 4 ชาติร่วมชิงชัย

เริ่มต้นยกท่าสแนตช์ นักยกเหล็กไทย เรียกน้ำหนักในครั้งแรก 150 กก.ยกผ่าน และยกครั้งที่ 2 และครั้งที่ 3 ที่น้ำหนัก 160 กก.และ 168 กก.ตามลำดับ ถือเป็นการทำลายสถิติซีเกมส์ของตัวเองที่ทำไว้เมื่อการแข่งขันครั้งที่ 24 จ.นครราชสีมา สถิติ 156 กก.ได้สำเร็จ ทำให้จบท่านี้นำเป็นที่ 1 ส่วนที่ 2 เป็นของมาเลเซีย มูฮัม ฟาร์มูซาร์ สถิติ 135 กก.ที่ 3 ไรอัล ไบรโอเนส จากฟิลิปินส์ สถิติ 130 กก.

ท่าคลีนแอนด์เจิร์ก สุธิพร ยังคงโชว์ความแกร่ง เรียกน้ำหนักที่ 180 กก.ยกผ่านฉลุย ครั้งที่ 2 เรียกเหล็ก 192 กก.ยกผ่านแบบไร้ปัญหา ยกครั้งสุดท้าย สุธิพร เรียกน.น.200 แต่ยกไม่ผ่านทำให้ทำสถิติในท่านี้ที่น้ำหนัก 192 กก.และเป็นการทำลายสถิติซีเกมส์ 191 กก.ที่ ขวัญชัย นุชพุ่ม ทำไว้ในครั้งที่ 23 ที่บาโคล็อต ประเทศฟิลิปินส์ คว้าเหรียญทองเป็นสมัยที่ 3 ของตัวเองได้อย่างสวยงาม

ด้วยสถิติ ในท่าสแนตช์ 168 กก. (ดีกว่าสถิติเดิมที่ตัวเองทำไว้ ที่ จ.นครราชสีมา 156 กก.และทำลายสถิติประเทศไทยที่ตัวเองทำไว้ 165 กก.) ท่าคลีนแอนด์เจิร์ก 192 กก. (ดีกว่าสถิติเดิมที่ ขวัญชัย นุชพุ่ม ทำไว้ที่ฟิลิปปินส์ 191 กก.) น้ำหนักรวม 360 กก. (ดีกว่าสถิติเดิมที่ตัวเองทำไว้ 347 กก.ที่ซีเกมส์ครั้งที่ 24 จ.นครราชสีมา) ส่วน เหรียญเงิน มูฮัม ฟาร์มูซาร์ (มาเลเซีย) ท่าสแนตช์ 135 กก.ท่าคลีนแอนด์เจิร์ก 165 กก.น้ำหนักรวม 300 กก., ทองแดง ไรอัล ไบรโอเนส(ฟิลิปปินส์) ท่าสแนตช์ 130 กก.ท่าคลีนแอนด์เจิร์ก 155 กก.น้ำหนักรวม 285 กก.

ปลื้มซิวทองซีเกมส์ 3 สมัยติด
"เจ้าแจ๊ค" สุธิพร วัฒนากสิกรรม เปิดเผยว่า การมาแข่งขันครั้งนี้ถือว่าตัวเองทำได้ตามมาตรฐาน และเป็นการซิวทอง 3 สมัยติดต่อกันของตัวเอง ไล่ตั้งแต่ ครั้งที่ 23 ที่ฟิลิปปินส์, ครั้งที่ 24 ที่ จ.นครราชสีมา และครั้งนี้ ที่เวียงจันทน์ และดีใจที่สามารถทำลายสถิติได้ทั้ง 3 ท่า เพราะที่ซ้อมมาก็ทำได้มาแล้วที่ 360 กก.

สำหรับการมาแข่งครั้งนี้ ตนได้รับกำลังใจดีเยี่ยมจาก พ.ต.ประเสริฐ สุ่มประดิษฐ อดีตจอมพลังทีมชาติไทยเหรียญเงินเอเชียนเกมส์และเหรียญทองซีเกมส์ ซึ่งปัจจุบันเป็นผู้ฝึกสอนของลาวชุดซีเกมส์ ครั้งที่ 25 ซึ่งเป็นน้าของตน ให้กำลังใจและเป็นที่ปรึกษาให้มาตลอด อนาคตตั้งใจฝึกซ้อมทำสถิติให้ดีกว่านี้เพื่อจะก้าวไปสู่ระดับโลกให้ได้ พร้อมขอมอบเหรียญทองนี้ให้กับครอบครัวที่ จ.นครสวรรค์ คอยติดตามและส่งกำลังใจมาให้

ขวัญชัยคว้าทองส่งท้ายทัพยกเหล็กไทย
รุ่นเกิน 94 กก. "เจ้าตั้ม" ขวัญชัย นุชพุ่ม ลงล่าทองให้ทัพยกเหล็กไทย ซึ่งเป็นเหรียญสุดท้ายในการแข่งขันกีฬายกน้ำหนักซีเกมส์ ครั้งที่ 25 เจ้าของ 2ทองจากซีเกมส์ครั้งที่ 23 ที่ฟิลิปปินส์รุ่น 94 กก., ซีเกมส์ครั้งที่ 24 ที่ จ.นครราชสีมา รุ่น 105 กก. และเป็นไปตามความคาดหมาย สามารถคว้าเหรียญทองได้สำเร็จ โดยท่าสแนตช์ยกผ่าน 2 ครั้ง 150 กก., 155 กก.ส่วนครั้งสุดท้ายเรียกเหล็ก 160 กก.ยกไม่ผ่าน ขณะที่ท่าคลีนแอนด์เจิร์ก 2 ครั้งแรกยกผ่าน ด้วยสถิติ 180 กก.และ 190 กก. ส่วนครั้งสุดท้ายเรียกเหล็ก 200 กก.ยกไม่ผ่าน

สรุปผลการแข่งขันนักกีฬาไทยคว้าทองด้วยสถิติ ท่าสแนตช์ 155 กก.ท่าคลีนแอนด์เจิร์ก 190 กก. น้ำหนักรวม 345 กก. ส่วนเหรียญเงิน ปาดิลลา โจเซลิโต (ฟิลิปปินส์) 135 กก. ท่าสแนตช์ 165 กก.ท่าคลีนแอนด์เจิร์ก 300 กก.ส่วน บายู เอพริลลาวัน จากอินโดนีเซีย มีเฉพาะสถิติท่าสแนตช์ 151 กก. ส่วนท่าคลีนแอนด์เจิร์ก เรียกเหล็ก 175 กก.ยกไม่ผ่านทั้ง 3 ครั้งทำให้ชวดเหรียญเงิน และในรุ่นนี้ และไม่มีนักกีฬาคนใดที่ได้เหรียญทองแดง

สะใจสถิติ 3 ซีเกมส์ 3 ทอง
"เจ้าตั้ม" ขวัญชัย นุชพุ่ม กล่าวถึงความรู้สึกหลังคว้าเหรียญทองปิดท้าย ให้ทัพนักกีฬาไทยว่า ตนเองมีวันนี้ได้ เพราะได้รับโอกาสจากนายกสมาคมฯ ที่ส่งแข่งในซีเกมส์ครั้งนี้ เพราะก่อนหน้านี้เจ็บเข้าซ้ายพักไป 2 เดือนเพิ่งกลับเข้าแคมป์ซ้อม ทำผลงานได้ขนาดนี้ถือว่าพอใจมาก และเป็นการคว้าเหรียญทองได้เป็นครั้งที่ 3 ในกีฬาซีเกมส์ ส่วนเรื่องสถิติที่ยกได้ถือว่าพอใจ ทำได้ตามที่ซ้อม อนาคตตั้งเป้าอยากมีโอกาสไปโลดแล่นในเวทีโอลิมปิกเกมส์อีกสักครั้ง

อิเหนาครองยกเหล็ก 5 ทอง,ไทยเก็บ 4 ทอง
สรุปการแข่งกีฬายกน้ำหนักซีเกมส์ ครั้งที่ 25 "เวียงจันทน์เกมส์" ชิงชัยทั้งหมด 13 ทอง ทีมอินโดนีเซียกวาดมาได้ 5 ทอง 1 เงิน 1 ทองแดง ขณะที่ทีมชาติไทยทำได้ 4 ทอง 4 เงิน จากนักกีฬาชาย 5 คน หญิง 4 คน ที่ส่งลงแข่งขัน มีเพียง อังศุมาลิน สายเลิศ รุ่น 53 กก.ไม่ได้เหรียญเพียงคนเดียว, อันดับ 3 เวียดนาม 2 ทอง 2 เงิน 2 ทองแดง ขณะที่ลาวเจ้าภาพ ทำได้ 1 ทองและ 1 ทองแดง

เจ๊บุษพอใจภาพรวมถือเป็นเกมแห่งมิตรภาพ
บุษบา ยอดบางเตย นายกสมาคมยกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย เปิดเผยหลังเสร็จสิ้นการแข่งขันยกน้ำหนักในซีเกมส์ ครั้งนี้ว่า ต้องบอกว่าโดยภาพรวมพอใจผลงานของทัพยกเหล็กไทยจากการส่งชิงชัย 9 รุ่น จากชาย 5 รุ่น หญิง 4 รุ่น ทำได้ 4 ทอง 4 เงิน ถือว่าทำไม่ได้ตามเป้าจากที่วางไว้ 5 ทอง ถือว่ามาแข่งครั้งนี้เราไม่ได้ซีเรียสมาก ถือเป็นเกมแห่งมิตรภาพ ทุกชาติที่ร่วมแข่งก็พอใจกับผลงานและเหรียญที่ได้รับ และการส่งนักกีฬามาแข่งครั้งนี้เราได้ส่งนักกีฬาดาวรุ่งมาหาประสบการณ์หลายคน และแต่ละคนทำผลงานได้เกินคาด ไม่ว่าจะเป็น "เจ้าแจ๊ค" สุธิพร วัฒนากสิกรรม และแอนนิภา มูลธาร์ ที่ทำสถิติได้ดีกว่าตอนซ้อม

ไทยต้องเร่งสปีดชาติอาเซียนพัฒนาจนน่ากลัว
"เจ๊บุษ" ยังเผยอีกว่า นับจากนี้เราคงต้องไปปรับหาเทคนิคใหม่ให้ทีมไทยพัฒนามากขึ้น เพราะเราได้เห็นแล้วว่าตอนนี้ชาติในอาเซียนอย่างอินโดนีเซียและเมียนมาร์พัฒนาได้อย่างน่ากลัว และพัฒนาไปรวดเร็วมาก รวมไปถึงนักกีฬาจากเมียนมาร์ที่ทางเราทราบมาว่ามีการใช้นักกีฬาจากจีนแปลงสัญชาติมา ก็น่ากลัวเหมือนกัน สำหรับซีเกมส์ครั้งนี้เราได้เห็นข้อบกพร่องหลายอย่างด้วยกัน คงจะต้องไปปรับให้กับนักกีฬาไทยโดยเฉพาะเรื่องของเทคนิค

สำหรับจอมพลังไทยนอกจากจะทำลายสถิติซีเกมส์แล้ว ยังมีจอมพลัง 2 คน ที่สามารถทำลายสถิติประเทศไทย ได้แก่ ไพศาล หรรษาวงศ์ ในท่าคลีนแอนด์เจิร์ก รุ่น 69 กก.ชาย โดยยกได้ 179 กก. ดีกว่าสถิติเดิมที่ สุริยา ดัชถุยวัตร ทำไว้ 175 กก. ในการแข่งขันชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย ที่จีน และสถิติเยาวชนประเทศไทยที่ตัวเองทำไว้ในเยาวชนโลกที่โรมาเนียเช่นกัน

ส่วนน้ำหนักรวม 320 กก.ยกได้เท่ากับสถิติประเทศไทยและสถิติเยาวชนประเทศไทยที่ตัวเองทำไว้ในการแข่งขันเยาวชนชิงชนะเลิศแห่งโลก ที่โรมาเนีย และ อีกคน สุธิพร วัฒนากสิกรรม ที่ทำลายสถิติประเทศไทยในท่าสแนตช์ 168 กก. (ดีกว่าสถิติเดิม 165 กก.) โดยจะได้เงินกิโลกรัมละ 3ꯠ บาท ที่ทำลายสถิติได้

สำหรับทัพยกเหล็กไทยหลังเสร็จสิ้นภารกิจในซีเกมส์แล้ว จะเดินทางกลับเมืองไทยในวันที่ 15 ธ.ค.นี้ ส่วนวันที่ 14 ธ.ค.ทางทีมจะปล่อยให้นักกีฬาช็อปปิ้งและเที่ยวในเวียงจันทน์ส่งท้าย