ซีเกมส์ 2011 อินโดนีเซีย

จักรยานถนนชิง 2 ทองประเภทไทม์ไทร์อัลชาย-หญิง ที่ถนนสุบัง ประเภทบุคคลหญิงระยะทาง 24 กม.ไทยส่งเจ้าของแชมป์เอเชีย จันทร์เพ็ง นนทะสิน และ "แชมป์เก่า" มนฤดี ชาภูคำ ลงชิงชัยกับนักกีฬาอีก 8 คน ซึ่งการแข่งขันครั้งนี้เจ้าภาพ "อิเหนา" จัดเส้นทางแข่งเป็นทางขึ้นเขาเพราะหวังจะสกัดสอง "น่องเหล็กไทย" โดย จันทร์เพ็ง ถูกปล่อยตัวเป็นคนสุดท้าย และ มนฤดี ปล่อยตัวก่อนจันทร์เพ็ง

แต่หลังจากที่ปล่อยตัวนักกีฬาหมดแล้ว จันทร์เพ็ง ทำเวลาตามหลัง ฟูฮานาติ นักปั่นเจ้าภาพ 32 วินาที แต่นักปั่นสาวไทย กัดฟันสู้ 6 กม.สุดท้าย พลิกกลับมานำ นักปั่นเจ้าภาพ 12 วินาที คว้าเกรียญทองแรกให้กับทัพจักรยานได้สำเร็จด้วยเวลา 1.17.23 ชม. เหรียญเงินเป็นของ ฟูฮานาติ 01:17:35. ชม. ทองแดง ชาง ลี เซี๊ยะ (สิงคโปร์) 01:20:33 ชม.

จันทร์เพ็ง เปิดเผยหลังการแข่งขันว่า ออกมายังทำเวลาตามอินโดนีเซีย 32 วินาที ตอนนั้นเหลือ 6 กม.สุดท้าย แต่ตนเริ่มหมดแล้ว ขาแทบจะลงจานไม่ไหวแล้วเพราะทางมันชันขึ้นเรื่อยๆ จนได้ยินเสียงโค้ชสนาม ลอยเมฆ ที่นั่งรถตามมาบอกให้สู้อีกนิด ตามแค่ 32 วินาทียังไล่ทัน

"เพื่อนๆ คอยตะโกนเชียร์และวิ่งไล่เรา โค้ชก็คอยตะโกนบอกสู้ได้ๆ ตอนนั้นทำให้มีกำลังใจแรงเหลืออยู่เท่าไหร่อัดจนหมดเพราะตอนแรกใช้แรงไป 90-95 เปอร์เซ็นต์ ถึง6กม.สุดท้ายลองใช้เต็มร้อย แต่มันก็หมดที่ 1 กิโลเมตรสุดท้าย ซึ่งเป็นทางลงแต่ยังขึ้นเนินสุดท้าย รู้สภาพตัวเองว่าไม่ไหวแล้ว แต่อีกนิดเดียวก็ถึงเส้นชัย เราจะไม่ทำให้เสียงเชียร์ของเพื่อนและแรงกระตุ้นของโค้ชเสียเปล่า แม้จะไม่ได้เหรียญแต่ขอไปให้ถึงเส้นชัย

พอไปถึงก็หมดแรงล้มลงไปนอนแต่ยังไม่รู้เวลา จนกระทั่งโค้ชมาบอกว่าชนะอินโดฯ 12 วินาที ดีใจ เพราะชนะได้ฉิวเฉียดมาก ที่สำคัญอินโดฯ หวังแต่เรากลับได้ก็แอบสะใจนิดๆ" จันทร์เพ็งกล่าว

นักปั่นสาวไทยกล่าวต่ออีกว่า ยังมีโปรแกรมแข่ง อินไลน์เรซ ในวันที่ 16 พ.ย. นี้ เส้นทางแข่งยังเป็นถนนเส้นเดิม แต่ทางจะขึ้นเขา ลงเขา เหมือนเดิม และมาบรรจบกันที่ 6 กม.สุดท้ายของไทม์ไทร์อัล หนักกว่าเดิมแต่ก็จะพยายามสู้เต็มที่เพราะเส้นทางนี้หากหนีกลุ่มมาได้เวลาก็ขาด ซึ่งการแข่งขันอินไลน์ฯ ต้องมีทีมคอยช่วยไปคนเดียวไม่รอดและเชื่อว่าจะต้องโดนนักปั่นเจ้าภาพรุมและสะกัดทุกทาง แต่ก็เต็มที่

ด้าน พล.ต.เดชา เหมกระศรี เลขาธิการสมาคมจักรยานและผู้จัดการทีม เปิดเผยว่า ก่อนแข่งได้โทรไปหาหลวงพ่อวัดวังคำ จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นวัดที่พานักกีฬาไปไหว้พระขอพรทุกครั้งที่จะออกไปแข่งขันรายการใหญ่ และตอนเช้าได้โทรขอพรหลวงพ่อ ขณะเดียวกันตนก็ได้ถามหลวงพ่อว่า วันนี้จะเป็นอย่างไร ท่านก็บอกว่าให้จันทร์เพ็งหันหน้าไปทางทิศตะวันตก เอาน้ำล้างหน้า พร้อมอธิษฐานถึงสิ่งศักดิ์ที่นับถือ แล้วไม่ต้องพูดคุยกับใครจนกว่าการแข่งขันจะเริ่มขึ้น และตนก็ให้จันทร์เพ็งทำตามที่หลวงพ่อบอก


"มันเป็นที่พึ่งทางใจทำแล้วสบายใจและเรียกความมั่นใจนักกีฬาได้ กลับไปผมต้องไปแก้บนด้วยปราสาทผึ้ง 3หลัง และพานักกีฬาไปไหว้หลวงพ่อด้วย ซึ่งได้เหรียญแรกมาแล้ว มั่นใจว่าเหรียญที่ 2 จะตามมาแต่อาจจะเป็นในลู่"พล.ต. เดชากล่าว