ซีเกมส์ 2011 อินโดนีเซีย

นิพนธ์ ขาวอุบล และ บรรพต ศรศาสตร์ ผู้สื่อข่าวและช่างภาพสยามกีฬา รายงานผลการแข่งขันมวยสากลสมัครเล่นกีฬาซีเกมส์ ณ เมืองปาเลมบัง ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันศุกร์ที่ 18 พฤศจิกายน 2554 มี 4 นักชกไทยขึ้นสังเวียนในรอบตัดเชือก ประกอบด้วย แก้ว พงษ์ประยูร, วรพจน์ เพชรขุ้ม, โสภิดา สะทุมรัมย์ และ ทัศมาลี ทองจันทร์

"โสภิดา" เฉือนญวนระทึกยกท้าย

นักชกไทยคนแรกที่ขึ้นสังเวียน คือ "น้องมุก" โสภิดา สะทุมรัมย์ สาวจากบุรีรัมย์ ตัดเชือกกับสาวเวียดนาม เหงียน ธิ ทุย ไม ในรุ่นฟลายเวต (51 กก.) เกมการชกต้องบอกว่า บีบหัวใจทุกยก

ยกแรก โสภิดาเดินลุยทันทีตามสไตล์ ยิงหมัด 1-2 ดุดัน สาวญวนสาวหมัดแลก ฉันทีเธอที แต่โสภิดาทรงมวยนิ่งและแน่นกว่า แต้มไทยนำก่อน 4-3

ยกสอง น้องมุกเพิ่มความเร็วเดินบี้ติดๆ มีต่อยตัดลำตัวด้วย ขวาตรงทิ่มหน้าชัดเจน ยกนี้โสภิดาต่อยได้แม่นกว่า แต่แต้มยังนำแค่ 6-5

ยกสาม ทั้งคู่แลกกันดุเดือด แต่เป็นโสภิดาที่เดินไล่ต่อยไปรอบเวที เวียดนามรอโต้จังหวะสอง ต่างฝ่ายต่างมั่นใจ จบยกนี้ ไทยยังนำแต้มเดียวอีก 9-8

ยกสี่ โสภิดา เหมือนรู้ว่าถ้าไปมั่วด้วยอาจเสียท่าได้ ยกนี้ชกอย่างรอบคอบ โยกแล้วฮุกซ้ายทิ่มขวาตรงได้สวย ต่อยเวียดนามหน้าหงาย ดูได้แต้มชัดเจน ทำให้เวียดนามต้องเดินลุยบ้าง แลกกันสนุกจนครบยก กรรมการตัดสินให้ โสภิดา ชนะ 15-11 แต้ม ผ่านเข้าไปชิงเหรียญทองกับเจ้าภาพ อีเรน ซาซิเฮียง ในวันที่ 21 พ.ย.

หลังชก "น้องมุก-โสภิดา" ให้สัมภาษณ์ว่า "ก็รู้สึกว่ายังเกร็งๆ อยู่ เหมือนว่ากดดันหน่อย แต่ก็พยายามอย่างเต็มที่ ตอนชกยกสี่ตอนนั้นก็ยังไม่มั่นใจนะ แต่ในสมองคิดจะยอมได้ยังไง เพื่อนเขาได้เข้าชิงกันหมด แล้วเราจะหยุดแค่นี้หรือ ดีใจมากที่ได้เข้าชิง ส่วนเจอกับเจ้าภาพถึงตอนนี้ไม่มีอะไรกดดัน นัดสุดท้ายมีเท่าไหร่ใส่ให้หมด เห็นฝีมือนักชกเจ้าภาพแล้วมั่นใจจะเอาชนะได้ และนำเหรียญทองกลับไปฝากคนที่บ้านตามสัญญา"

สุดหวิว "ทัศมาลี" เฉือนแต้มเดียว

"น้องเอ็ม" ทัศมาลี ทองจันทร์ ขึ้นเวทีคนที่สองของทีมมวยไทย เจอกับสาวอิเหนา เจ้าภาพ เวลมี่ พาร์ยาม่า รอบตัดเชือก รุ่น 57 กก.

ยกแรก ทัศมาลีโชว์สเต็ปเท้าเต้นฟุตเวิร์กหลอกล่อ ดักต่อยขวาสุดสวย นำก่อน 4-2

ยกสอง น้องเอ็มชกดึงจังหวะสอง ทิ่มขวาเข้าใบหน้าและลำตัวจะแจ้งแทบทุกหมัด แต่แต้มกลับขึ้นน้อยเหลือเกิน ยกนี้สาวไทยต่อยได้ดีมาก หมดยกนำแค่ 8-4

ยกสาม ทัศมาลีต่อยลำตัวได้ดี สาวอินโดฯ ลุยแหลก แลกกันสนุก ต่างฝ่ายต่างออกอาการแผ่ว คะแนนทัศมาลีนำแค่ 11-8

ยกสี่ อินโดฯ เดินลุยสาวหมัดชุดอุตลุต ทัศมาลีวนออกข้างดักจ้วง แต่เริ่มแผ่วเหมือนกัน เจ้าภาพก็ต่อยไม่ค่อยโดน กรรมการเบรกเตือนทั้งคู่หลายหน จนครบยก พอเห็นคะแนนสุดหวิว กรรมการตัดสินให้ ทัศมาลี ชนะแค่ 15-14 แต้ม เท่านั้น ผ่านเข้าไปชิงเหรียญทองกับเวียดนาม ที่ชนะพม่า 18-6

"น้องเอ็ม-ทัศมาลี" เปิดใจหลังลงจากเวทีว่า ตนรู้สึกตื่นเต้นและกดดันอย่างแรง ตั้งแต่ก่อนขึ้นชก ไม่อยากพูดกับใครเลย เพราะกลัวว่าจะเจอฤทธิ์เจ้าภาพทำให้ตกรอบ เรื่องฝีมือตนไม่กลัวหรอก ซึ่งตนพยายามคิดอยู่ตลอดว่าจะทำยังไงที่จะเอาชนะให้ขาดลอย กรรมการตัดสินค้านสายตาไม่ได้

"ยอมรับเลยค่ะว่าตื่นเต้นกว่าตอนชิงเหรียญทองเอเชียนเกมส์ที่จีนซะอีก ตอนนั้นหนูเป็นรองเขาเยอะ เลยไม่กดดัน แต่ครั้งนี้พอรู้ว่าจะเจอกับเจ้าภาพคนแรก เรากลัวแพ้ทั้งที่เราชนะน่ะสิ พอชนะได้โล่งเลยค่ะ ดีใจมาก แต่นัดชิงก็ไม่ประมาทเวียดนามหรอกนะ เขาก็เก่งเหมือนกัน"

ต่อยไม่เลี้ยง "แก้ว" ขยี้เจ้าภาพ

แก้ว พงษ์ประยูร ตัดเชือกกับเจ้าภาพอีกคู่ อากูส ฮิดาริฮุน ในรุ่น 49 กก. คู่นี้ แก้ว เหนือกว่ามาก แม้จะเจอกับเจ้าภาพ แต่เปิดเกมไล่ถลุงมันมือ แม้จะเตี้ยกว่าแต่ต่อยเข้าเป้าเห็นชัด ทว่ายกแรกก็ต้องลุ้นเสียวเหมือนกัน เพราะแก้วนำแค่ 4-3

จนมาถึงยกสอง สถานการณ์เริ่มผ่อนคลาย เมื่อแก้วไล่ขยี้รัวหมัดไม่มีหยุด ต่อยขวาทิ่มหน้าอินโดฯ จนแดงเถือก นำห่าง 14-8

ยกสาม นักชกอิเหนาพยายามกัดฟันบอก แต่ยิ่งเดินกลับยิ่งโดนจ่าแก้วของเราหลอกต่อยจนหน้าบวม แต้มไหลไปเรื่อยจนครบยก "แก้ว" ชนะขาดลอย 22-10 แต้ม เข้าไปชิงเหรียญทองกับเวียดนามที่ชนะพม่า 18-8

หลังชก แก้ว พงษ์ประยูร กล่าวด้วยสีหน้าสดชื่นว่า โล่งใจเป็นที่สุด เมื่อผ่านด่านเจ้าภาพไปได้ เพราะที่ผ่านมาหลายครั้งหลายหน ตนชกกับเจ้าภาพทีไร มักเจอทีเด็ดประจำ วันนี้ตั้งใจชกอย่างมาก และวางแผนจะต้องอัดให้ขาด ไม่ให้เขาโกงเราได้ ซึ่งพอผ่านยกสองไปแล้วก็มั่นใจมาก เพราะมวยอินโดฯ ตัวนี้ไม่มีอะไรน่ากลัวเลย ส่วนนัดชิงกับเวียดนาม ถึงตนจะเหนือกว่าแต่ก็ไม่ประมาท เหลืออีกนัดเดียวต้องชกให้ดีที่สุด เพื่อนำเหรียญทองกลับบ้านให้ได้"

"วรพจน์" เหนือชั้นต้อนพม่าไร้เสียว

คนสุดท้ายของทีมกำปั้นไทยเมื่อวาน วรพจน์ เพชรขุ้ม เจอกับมวยพม่า คะยอ คะยอ แลท ในรุ่น 56 กก. รอบตัดเชือกเช่นกัน วรพจน์ ฝีมือครบเครื่องเหนือชั้นกว่ามาก

ยกแรก วรพจน์ดักต่อยจังหวะสอง ชกขวาเข้าเป้าสวยงามนำก่อน 6-4

ยกสอง พม่าเดินเข้าหา แต่ไล่ไม่จน เจอวรพจน์ฮุกขวาเข้าเต็มหน้าหลายหมัด แต้มยกนี้ไหลพรวดๆ วรพจน์นำห่าง 14-4

ยกสาม วรพจน์ชกแบบได้ใจ หลอกล่อพม่าเป็นวัวกระทิงคลั่งยาม้า ครบยก วรพจน์ชนะไปอย่างเบิร์ดๆ 17-6 แต้ม ผ่านเข้าชิงเหรียญทองกับเวียดนามที่พลิกล็อกชนะอินโดนีเซีย เจ้าภาพ 15-4

วรพจน์ เพชรขุ้ม กล่าวหลังชกเสร็จว่า ตนชกไฟต์นี้ก็ยังไม่ดีเท่าไหร่ ไม่พอใจตัวเองนัก สาเหตุก็เพราะยังมีอาการป่วยเป็นไข้อยู่ ตัวร้อน มีเสลดด้วย แต่อาศัยประสบการณ์ที่เหนือกว่า เอาชนะพม่าได้ก็ดีใจที่ได้เข้าชิงเหรียญทองอีกสมัย ก็หวังว่าจะคว้าทองสมัยที่ 5 ให้ตัวเอง และพี่น้องชาวไทยทุกคน ขอบคุณชาวไทย และคนใต้ทุกคนที่ส่งใจมาเชียร์ นัดชิงอาการป่วยของตนน่าจะดีขึ้น เจอกับเวียดนามเคยลงนวมด้วยกัน คิดว่าสู้ได้ แต่ไม่ประมาท

วันนี้ (19พ.ย.) หญิงชิง 4 ทองชายตัด 2

การแข่งขันมวยเสื้อกล้ามซีเกมส์ เย็นวันเสาร์นี้ เริ่มชกเวลา 16.00 น. จะมีทีมกำปั้นไทยขึ้นสังเวียนทั้งหมด 4 คนด้วยกัน มวยชายเป็นการต่อยในรอบรองชนะเลิศ ฉัตรชัย บุตรดี ตัดเชือกกับนักชกพม่า เฮียท อ่อง ในรุ่นฟลายเวต (52 กก.) และ สายลม อาดี ดวลกับฟิลิปปินส์ ชาร์ลี ซัวเรส รุ่นไลต์เวต (60 กก.)

ส่วนมวยหญิง จะเป็นการชกในรอบชิงเหรียญทอง โดยสาวไทยผงาดขึ้นชิงครบ 4 รุ่น ที่ส่ง รุ่นฟลายเวต (51 กก.) โสภิดา สะทุมรัมย์ ชิงกับเจ้าภาพ อินโดนีเซีย รุ่นแบนตั้มเวต (54 กก.) เปี่ยมวิไล เล่าเปี่ยม ชิงกับฟิลิปปินส์ รุ่นเฟเธอร์เวต (57 กก.) ทัศมาลี ทองจันทร์ ชิงกับเวียดนาม และ รุ่นไลต์เวต (60 กก.) สุดาพร สีสอนดี ซัดกับสาวเวียดนามเช่นกัน

"ศักดา" ลุ้นทะลุ 9 ทองวัด "สายลม"

พ.อ.ศักดา เพ็ชรจินดา ประธานเทคนิคทีมมวยสมัครเล่น กล่าวหลังนักมวยทุกคนทำหน้าที่เสร็จว่า "มาถึงตอนนี้เราน่าจะได้เข้าชิงทั้งหมด 9 รุ่น ครับ ที่ต้องลุ้นหน่อยก็คือ สายลม เจอกับ ฟิลิปปินส์ สายลม ฝีมือดี แต่แรงไม่ค่อยดี ส่วนแก้ววันนี้ชกได้ดีมากๆ เลย โสภิดาสู้วันแรกไม่ได้ แต่มวยหญิงชิง 4 ทอง วันนี้ ผมมั่นใจนะว่าจะกวาดหมดทุกคนครับ"

"ส่วน พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ นายกสมาคม ตอนนี้ท่านได้เดินทางมาถึงอินโดนีเซียแล้ว เมื่อตอนเย็น แต่มาเชียร์นักมวยไม่ทัน วันเสาร์นี้ท่านบอกว่าจะมาเชียร์มวยหญิงชิงเหรียญทองอย่างแน่นอน"

คู่ชก "สายลม" เคยชนะ "วรพจน์"

สายลม อาดี นักชกขอนแก่น จะเจอกับ ชาร์ลี ซัวเรส นักชกฟิลิปปินส์ ในรอบรองชนะเลิศ ซึ่งมวยปินส์รายนี้เคยชนะ วรพจน์ เพชรขุ้ม มาแล้วเมื่อสองปีก่อนที่กรุงมะนิลา แต่สายลมบอกว่าตนไม่ยี่หระ หลังจากผ่านรอบแรกไปแล้ว ความมั่นใจตนมีเพิ่มขึ้นมาก รวมถึงได้ชกไฟต์แรกทำให้คลายความกดดันไปมาก แต่ก็จะไม่ประมาท จะชกให้ละเอียดและรอบคอบที่สุด เพื่อจะได้ไปชกในวันสุดท้ายชิงเหรียญทองให้ได้

ส่วนวรพจน์ก็เผยกับคนข่าวว่าคู่ชกเจ้าลมก็ใช้ได้ แต่ไม่ได้เก่งมากนักหรอก ที่ชนะตนได้ก็เพราะต่อยในบ้าน

ชกครั้งเดียว "สุดาพร" ไม่ภูมิใจ

"น้องแต้ว" สุดาพร สีสอนดี นักมวยหญิงรุ่นใหญ่ 60 กก. วัย 20 ปี ชาวสกลนคร เปิดใจกับ "มวยสยาม-สยามกีฬา" สำหรับการขึ้นชกชิงเหรียญทองกับสาวเวียดนาม โง ธิ ซุง ซึ่งเป็นการชกครั้งแรกและครั้งเดียวของเธอ ในวันที่ 19 พ.ย. นี้ ว่า

"ถ้าถามความรู้สึกของตน บอกได้เลยว่าไม่ค่อยภาคภูมิใจเท่าไหร่นัก เพราะชกแค่ครั้งเดียว ก็ได้ชิงเหรียญทองเลย ไม่เหมือนเพื่อนๆ ที่ต่อยอย่างน้อยคนละสองครั้ง อุตส่าห์ทุ่มเทฟิตซ้อมมานานหลายเดือน ก็อยากชกให้เต็มที่ แต่จะทำยังไงได้ ในเมื่อมีส่งแข่งแค่สองชาติเท่านั้น ตนก็จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ต้องเอาชนะสาวญวนให้ได้ ขอให้ชาวไทยช่วยเป็นกำลังใจให้ด้วย"